‘พีระพันธุ์’แจงไม่เกี่ยวข้อง‘คดีแตงโม’ ย้ำไม่เคยช่วยคนทำผิดทุกกรณี รับรู้จัก‘ปอ’ แต่แค่ฐานะคนทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์และเปิดอู่ซ่อมรถเท่านั้น
14 กุมภาพันธ์ 2568 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถูกพาดพิงเกี่ยวกับคดีของดาราสาว ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ “แตงโม” โดยมีการระบุมีหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาโทรศัพท์หานายพีระพันธุ์ และมีการพูดคุยกันประมาณ 10 นาที ว่า ตนเป็นคนทำงานการเมืองที่ต้องดูแลประชาชน จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนโทร.หาตลอดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเป็นคนที่มีปัญหาเดือดร้อน เมื่อมีสายโทรศัพท์เข้ามา ตนก็รับตลอด แต่ถ้ารับไม่ทัน ก็โทร.กลับไปเป็นเรื่องปกติ ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวหานั้น ตนรู้จักในฐานะที่เขาเป็นคนทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์และเปิดอู่ซ่อม
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุ บุคคลดังกล่าวได้เล่าให้ฟังว่าเพื่อนของเขาประสบอุบัติเหตุตกน้ำและขอคำแนะนำว่าเขาต้องทำอย่างไร ตนจึงบอกให้ไปแจ้งตำรวจเป็นอันดับแรก และหลังจากนั้นตนก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้อีกเลย
“สำหรับคุณปอที่เป็นประเด็นปัญหานั้น ผมรู้จักเขาในฐานะที่เขาเป็นคนทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์ แล้วก็เปิดอู่ซ่อม ผมเคยซื้อรถยนต์จากเขา แล้วก็ซ่อมรถกับเขามาก่อน เพราะฉะนั้นผมเลยรู้จัก แต่วันนั้นเขาไม่ได้มีคดีความอะไร แม้แต่วันที่เกิดเหตุ ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไร เมื่อมีคนโทรศัพท์มา ผมรับโทรศัพท์ไม่ทัน ผมก็โทร.กลับ ก็เป็นเรื่องปกติ พอผมโทร.กลับ คุณปอ ก็บอกว่า เขาไปลงเรือกับเพื่อนๆ ปรากฏว่าเพื่อนเขาประสบอุบัติเหตุตกน้ำ เขาเองก็กำลังตกใจ พูดไม่ค่อยเข้าใจ” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าว่า ตนก็เลยบอกว่าค่อยๆเล่า เรียบเรียงเหตุการณ์สิ พอเขาเรียบเรียงเหตุการณ์เสร็จ เขาก็ถามตนว่า เขาต้องทำอย่างไร ตนก็บอกว่าสิ่งที่คุณต้องทำอันดับแรกคือคุณก็ต้องไปแจ้งตำรวจ ไปที่สถานีตำรวจสักแห่งหนึ่งก็ได้แล้วก็ไปเล่าให้เขาฟัง จุดเกิดเหตุอยู่ไหน แล้วจะต้องทำอย่างไร ไปแจ้งที่ตำรวจที่ สน.อะไรก็ว่ากันไปตามนั้น ก็เท่านี้ล่ะ ไม่ได้มีอะไร
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า คุณปอโทรหามาประมาณกี่โมง ตนจําไม่ได้หรอก มัน 3 ปีแล้วมั้ง แต่เป็นกลางคืน สําหรับตนมันเรื่องปกติ เพราะไม่ว่าชาวบ้าน หรือใครก็โทรมาหาตนตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งประเด็นมันมีเท่านี้ แล้ววันนั้น เราก็ยังไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไร แล้วตนก็ไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นผู้ประสบเหตุ เพราะเขาไม่ได้บอกผม แต่ถึงบอกผมก็ไม่รู้จัก เพราะผมเป็นคนไม่รู้จักดาราเลย มารู้อีกทีที่เป็นข่าววันรุ่งขึ้น แล้วผมก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขา คดีความเขาเป็นอะไรเราก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยว ไม่เคยไปให้คําแนะนําทางกฎหมาย หรือว่าไปช่วยเหลืออะไรเลย
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่าก่อนที่เขาจะเกิดเหตุเป็นข่าวขึ้นมา เขาก็เป็นคนทําธุรกิจที่เรารู้จักธรรมดา ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องไปเกี่ยวข้องอะไรกับเขา ตนเชื่อว่าวันนั้น เขาคงไม่ได้โทรหาตนคนเดียวหรอก แต่ทําไมต้องเอาตนอ้างขึ้นมา
“หลักความยุติธรรมที่ผมยึดมั่นมาตลอดคือ เราไม่มีวันรู้หรอกว่าใครจะโทรหาเรา และเราก็ไม่มีวันรู้หรอกว่า แต่ละคนที่เรารู้จัก เขาไปเกิดเหตุอะไร แต่ถ้าใครทําอะไรผิด ผมไม่เคยช่วย ไปเช็คประวัติผมดูได้ ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิดอยู่แล้ว แต่ที่สําคัญคือผมจะไปเกี่ยวอะไรกับเขา ในเมื่อคดีนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมแล้วผมจะต้องเอาหน้าที่การงานผมไปเสี่ยงเพื่ออะไร อย่าว่าแต่คุณปอเลย แม้แต่ตัวผมเอง เกิดเรื่องอะไร ก็ไม่เคยใช้ตําแหน่งหน้าที่ไปทําอะไรให้จากผิดเป็นถูก ผิดก็ต้องยอมรับผิด ผมเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว คนที่รู้จักผมจะรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นยังไง เพราะฉะนั้นอย่าว่าแต่กรณีนี้เลย ไม่ว่ากรณีไหนผมไม่เคยเข้าไปช่วยคนที่ทําผิด” นายพีระพันธุ์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี