สืบ ตม.3 บุกร้านนวดลับ “จับสาวเมียนมาลอบค้ากาม! ลูกค้าติดตรึม”
วันนี้ (14 ก.พ.) พล.ต.ท.ภานุมาศ บุญญลักษณ์ ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) มอบหมายให้ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม.สั่งการหน่วยงานในสังกัด กวดขันการปฏิบัติการให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.ซึ่งทาง พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง รอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 ได้ดำเนินการติดตามปราบปรามการกระทำผิดของบุคคลต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีการตรวจค้นจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบค้าประเวณีภายในร้านนวดในพื้นที่ จ.นนทบุรี
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากทางตำรวจ ตม.3 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าที่ร้านนวดที่เกิดเหตุ เปิดให้บริการนวดแต่แฝงการให้บริการทางเพศกับลูกค้าด้วย จึงหารือร่วมกับตำรวจท้องที่ ก่อนจะเข้าสืบสวนทราบว่าผู้กระทำผิดเป็นบุคคลต่างด้าว ที่ลักลอบให้บริการนวดและแอบค้าบริการทางเพศ มีการเปิดกลุ่มลับในเทเลแกรม สำหรับลงภาพถ่ายที่เข้าข่ายลามกอนาจารของพนักงานในร้าน เพื่อใช้โฆษณาเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ และไว้ส่ง “การบ้าน” จากทางลูกค้าที่เคยใช้บริการหลายราย
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 พ.ต.ท.วิรชา สนั่นศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3 พ.ต.ท.สุริโย ไชยยอด สว.กก.สส.บก.ตม.3 ว่าที่ พ.ต.ท.จตุรโชค เพชรคง สว.กก.สส.บก.ตม.3 สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ ค.100/2568 ลงวันที่ 13 ก.พ.2568 เข้าตรวจค้นร้านนวดแห่งนี้ โดยก่อนการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งสายลับ เข้าไปใช้บริการนวด และล่อซื้อบริการทางเพศจากหมอนวดชาวเมียนมา เมื่อได้หลักฐานเพียงพอ สายลับจึงให้สัญญาณกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ซึ่งได้ซุ่มรออยู่บริเวณใกล้เคียง ในการนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุม
จากการตรวจค้นพบว่า ร้านดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เปิดบริการนวดบังหน้า แต่มีการให้บริการทางเพศเป็นบริการเสริม และขณะเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบตัว น.ส.เลมอน (นามสมมติ) อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา กำลังให้บริการนวดแก่สายลับ และเสนอให้บริการทางเพศในราคา 2,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมของกลางเป็นเงินสดที่ใช้ในการล่อซื้อ ถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่น ภายในกระเป๋าของ น.ส.เลมอน นอกจากนี้ยังพบ น.ส.หญิง (นามสมมติ) พนักงานนวดอีกราย ซึ่งเป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนฯ และไม่มีใบอนุญาตทำงาน ให้การรับสารภาพว่า รับงานนวดจากเจ้าของร้าน โดยได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 100 บาท รวมทั้งยังจับกุม น.ส.ขนม และนายอมยิ้ม (นามสมมติ) ที่เป็นทั้งเจ้าของร้านและแอดมินของทางร้าน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่ใช้ส่งข้อความและภาพภายในกลุ่มลับ พร้อมกับรับจองจากลูกค้ารายต่างๆ
ส่วนการตรวจค้นภายในร้าน พบถุงยางอนามัยที่ยังไม่ใช้งานจำนวนหลายสิบกล่อง เจลหล่อลื่น เก็บอยู่ภายในล็อกเกอร์ของทางร้าน และถุงยางอนามัยใช้แล้วอยู่ในถังขยะภายในห้องนวดของทางร้าน
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า กระทำความผิดจริง โดย น.ส.เลมอน ให้การว่ารับงานนวดและขายบริการทางเพศ ขณะที่เจ้าของร้าน รับว่าเป็นผู้ดูแลจัดการร้าน และรับรู้เรื่องการขายบริการทางเพศของพนักงานให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ฯ ผบก.ตม.3 เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นอีกปัญหาที่สะท้อนถึงการลักลอบประกอบอาชีพของบุคคลต่างด้าว ซึ่งในทางกฎหมายอาชีพนวดแผนโบราณเป็นอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทยเท่านั้น หากแต่เจ้าของสถานประกอบการกับลักลอบนำคนต่างด้าวมาทำงานทั้งยังแอบแฝงบริการทางเพศเอาไว้ด้วย
ต่อมาในขณะจับกุมยังพบอีกว่ามีการโฆษณาเชิญชวนโดยการส่งภาพลามกอนาจารที่เรียกว่าการส่งการบ้านจากลูกค้า ในกลุ่มเทเลแกรมของพวกตน อันเป็นการนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งภาพลามก การกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ทั้งความผิดตาม พรก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี และเป็นความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย ซึ่งกรณีเช่นนี้จะได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันจับกุมอย่างจริงจัง และให้ดำเนินความผิดในทุกฐานความผิดตามตัวบทกฎหมายที่ยกมาข้างต้นอย่างต่อเนื่อง
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี