รอง ผบช.ภาค 6 เรียกประชุมทีมสอบสวนคดีฆาตกรรมอำพราง 3 ศพพ่อแม่ลููกที่กำแพงเพชร พร้อมนำตัวผู้ต้องสงสัยมาเต้นสอบปากคำกว่า 6 ชั่วโมง หลังพบเป็นคนนำปืนมาจำนำกับผู้ตาย เชื่อเป็นประบอกเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุ เผยเจ้าตัวให้การสับสนมีพิรุธ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รอง ผบช.ภ.6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ประชุมติดตามความคืบหน้าในการสืบสวน เพิ่มเติมคดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมอำพราง 3 ศพพ่อแม่ลูกคือนายวงศกร หรือ ใหม่ หงสไกร อายุ 37 ปี ,น.ส.นันทกานต์ นาซึ อายุ 35 ปี ,น้องน้องซันเดย์ ที่หายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ถูกฆ่าอำพรางในรถกระบะ จอดอยู่ภายในบ้านร้างริมถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
โดยล่าสุด ตำรวจได้เชิญตัวน้องชายของผู้ตาย เดินทางเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ในส่วนของรายละเอียด SMS ที่ส่งเข้ามา ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ส่วนผลชันสูตรศพทั้งสามคนพ่อแม่ลูก พบถูกอาวุธปืนยิงที่ศีรษะหมดทั้ง ส่วนจะเป็นอาวุธปืน ชนิดและขนาดไดนั้น ยังต้องรอผลนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดอีกครั้ง แต่มีความเป็นไปได้ประมาณ 70 % ขณะที่เฟสบุ้ค นายสุพัฒน์ ลูกพี่ลูกน้องกับนายใหม่ ได้โพสต์ข้อความลงเฟสบุ้คส่วนตัว ระบุข้อมความว่า ผลชันสูตรออกมารู้ว่าเป็นปืนบีบีกันแปลงคงมีไม่กี่คนหรอกมั้งที่ผมพอจะรู้จัก
ต่อมาพล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รอง ผบช.ภาค 6 , พลตำรวจตรี โอภาส คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ,พ.ต.อ.เอนก จันทร์สอน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร,พ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผู้กำกับการ สภ.คลองขลุง ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ตำรวจนำบุคคลที่ต้องสงสัยมาสอบปากคำ โดยให้การว่าได้เอาปืนมาจำนำกับผู้ตาย ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุ โดยบุคคลที่นำมาสอบปากคำในวันนี้ ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และตำรวจสืบทราบว่ามีความสนิทสนมกับน้องชายของผู้ตายด้วย
ส่วนประเด็นเรื่องเบอร์โทรศัพท์ปริศนานั้น ยืนยันว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนด้วยคนงานชาวพม่า และคนไทย ซึ่งเป็นบุคคลปริศนา ซื้อมาใช้เพื่อส่งข้อความมาหาน้องชาย รวมถึงยังมีการเชื่อมโยงโทรไปหาบุคคลอื่นๆ ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจได้มีการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้
ขณะที่อาวุธปืนที่ทราบว่า เป็นปืนบีบีกันดัดแปลงเป็นอาวุธปืนจริง ซึ่งเป็นปืนที่ผู้ตายเป็นผู้ครอบครองนั้น ในส่วนนี้ ตำรวจยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากตำรวจยังไม่พบปืนที่ใช้ก่อเหตุ สำหรับผลการชันสูตรทั้งสามศพเบื้องต้น พบบาดแผลจากรอยกระสุนที่ศีรษะทั้งสามราย แต่ยังให้รายละเอียด เรื่องจำนวนนัดที่ยิงไม่ได้ ต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดหลังจากนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ที่สถานีตำรวจภูธรคลองขลุง ตำรวจสภ.คลองขลุง ได้เชิญตัว"นายโน๊ต"เพื่อนของโป๊งเหน่ง หรือบอล น้องชายของน.ส.นันทกานต์ คนตายมาสอบปากคำกว่า 6 ชั่วโมง เนื่องจากมีข้อมูลว่าเป็นบุคคลที่นำปืนมาให้ผู้ตาย พร้อมอ้างว่าเอาปืนมาจำนำกับผู้ตาย โดยตำรวจสอบเข้มตลอดทั้งวัน ไม่ให้ข้อมูลกับผู้ไดทั้งสิ้น
จากนั้นในเวลา 17.40 น.ของวันเดียวกัน ตำรวจจะพาตัวออกมาเก็บดีเอ็นเอ ตรวจร่างกายเพื่อหารอยตำหนิต่างๆ ซึ่งระหว่างคุมตัวออกจากห้องเก็บพยานหลักฐานนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายศิวกร ว่าเดินทางมาให้ปากคำเรื่องอะไร แต่นายศิวกรกลับตอบคำถามเพียงว่าตนยังไม่ใช่ผู้ต้องหา ยังไม่มีความผิด แค่เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงการนำปืนไปจำนำผู้ตาย แต่นายโน๊ตไม่ยอมตอบคำถาม และเมื่อถามว่า ได้โทรออกหรือรับสายเบอร์ปริศนาของชาวพม่าหรือไม่ นายศิวกร ก็เผลอตอบมาว่า ตนโทรเป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว แต่พอผู้สื่อข่าวย้ำ โทรปริศนา นายศิวกรเหมือนได้สติ มีอาการเออะอะ และไม่ได้ตอบคำถามอะไรอีก พร้อมพูดสั้นไว้ว่า ผมก็รู้พร้อมๆกับพวกพี่ ก่อนจะเดินเข้าห้องสอบสวนไปอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดผลการสอบสวนนายโน๊ตได้ว่ามีความเชื่อมโยงไปทางใดบ้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี