กทม. แจงข่าว กรุงเทพฯ เสี่ยงจมน้ำ 10 เขต เป็นข้อมูลเก่า ยืนยันพัฒนาระบบป้องกันน้ำท่วมต่อเนื่อง
นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ระบุกรุงเทพฯ เสี่ยงที่จะจมน้ำ โดยมี 10 เขตที่เสี่ยงได้รับผลกระทบหากไม่ได้รับการแก้ไขทันทีว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเป็นข้อมูลเก่าที่ สำนักการระบายน้ำ (สนน.) เคยศึกษาร่วมกับองค์กรต่างๆ เช่น ธนาคารโลก (World Bank) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมที่ดิน ซึ่ง กทม. ได้รับทราบถึงปัญหาและพัฒนาระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตามคาดการณ์ได้ เช่น พื้นที่เขตตามแนวริมแม่น้ำในพื้นที่ของกรุงเทพฯ ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า โดยปกติระดับน้ำที่ขึ้นในแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด โดยมีค่าระดับเฉลี่ยอยู่ที่ -1.00 ม.รทก. ถึง +1.00 ม.รทก. (เมตรจากระดับทะเลปานกลาง ) และมีค่าสูงสุดเมื่อปี 2554 ที่ระดับ +2.53 ม.รทก. ซึ่งจากสถานการณ์ของปีดังกล่าว สนน. ได้ปรับปรุงก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อยและคลองมหาสวัสดิ์ โดยเพิ่มระดับแนวป้องกันฯ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ +3.00 ม.รทก. รวมถึงการเรียงกระสอบทรายเพื่อเสริมระดับแนวป้องกันน้ำท่วมในช่วงน้ำหลาก (ต.ค.-พ.ย.) ให้สูงขึ้นอีกประมาณ 0.50 เมตร
ขณะเดียวกัน กทม. ได้รับการสนับสนุนเพื่อลดการทรุดตัวของแผ่นดินในพื้นที่กรุงเทพฯ จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ด้วยมาตรการหยุด/ห้ามการสูบน้ำบาดาลในพื้นที่กรุงเทพฯ และจากข้อมูลกรมทรัพยากรธรณีปัจจุบัน กทม. มีค่าการทรุดตัวเฉลี่ยที่ 0.35 มม. ต่อปี และในพื้นที่ที่มีระดับต่ำใกล้เคียงกับระดับน้ำทะเล เช่น ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ และเขตบางนา เป็นต้น นอกจากนี้ สนน. ยังได้ดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมระดับน้ำและระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งปัจจุบัน กทม. มีอุโมงค์ระบายน้ำที่พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 4 แห่ง และอยู่ระหว่างก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง รวมถึงได้เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของสถานีสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีประสิทธิภาพในการระบายน้ำฝั่งพระนครกว่า 700 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) /วินาที และฝั่งธนบุรีกว่า 500 ลบ.ม./วินาที
สำหรับแผนการรองรับการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีการซึมน้ำลดลงและการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ มีฝนตกในพื้นที่รุนแรงขึ้น สนน. ได้พัฒนาท่อระบายน้ำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงจัดทำช่องทางรับน้ำตามแนวถนนให้สามารถรับน้ำได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังได้ก่อสร้างรางระบายน้ำรูปตัวยู (U-gutter) และรูปตัวโอ (O-gutter) เพื่อทดแทนการซึมน้ำที่ลดลง ขณะเดียวกันได้พัฒนาคลองระบายน้ำสายหลักให้สามารถควบคุมระดับน้ำในพื้นที่และระบายน้ำได้มากขึ้น โดยจัดทำเขื่อนตามแนวริมคลอง พร้อมขุดลอกคลอง การจัดหาพื้นที่บึงรับน้ำเพื่อเป็นแก้มลิงเพิ่มเติมและก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดินให้สอดคล้องกับสภาพเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ กทม. ยังได้รับความร่วมมือจากองค์กรต่างประเทศ เช่น JICA weathernewsjapan ช่วยจัดทำแผนแม่บทรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ศึกษาปัญหาที่เกิดในปัจจุบันและในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นสำหรับใช้ในการพัฒนาระบบระบายน้ำในอนาคต รวมถึงพัฒนา การพยากรณ์อากาศให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อสามารถแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบสถานการณ์ฝนตกหนักได้ล่วงหน้าก่อน 3 ชั่วโมง
037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี