‘ไอ้โน๊ต’สารภาพ
สังหารโหด3ศพ
แค้นลึกจำนำปืน
แต่ไม่ได้รับเงิน
“ไอ้โน๊ต” ยอมสารภาพฆ่าล้างครัว 3 ศพ ที่กำแพงเพชร เหตุนำปืนไปจำนำแต่ไม่ได้เงิน ทั้งยังมีเพื่อนร่วมขบวนการอีก 3 คนช่วยอำพรางซ่อนเร้นศพ ตำรวจตามรวบได้ยกแก๊ง เร่งงมหาปืนทูตมรณะ
เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีการพบศพ 3 พ่อแม่ลูกถูกยิงเสียชีวิตซุกรถกระบะ ล่าสุดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย หลังจากที่มีการสืบสวนสอบสวนและพบผู้ต้องสงสัยที่ร่วมฆ่า 3 พ่อแม่ลูกมีด้วยกัน 4 ราย ประกอบด้วย รายแรกคือ นายศิวกร หรือโน๊ต ที่นำตัวมาสอบตั้งแต่ช่วงเช้า และรายล่าสุดที่เอาตัวมาที่โรงพักคือ นายนิรุธ หรือ ยศ จากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่า นายศิวกร ผู้ต้องสงสัยคนแรกที่คุมมา ทำหน้าที่เป็นคนยิง และเป็นคนส่งข้อความ sms ให้นายศิริชัย น้องเมีย นายวงศกร ผู้เสียชีวิต และนายนิรุธ หรือยศ ที่เอาตัวมาโรงพักล่าสุด เป็นคนซื้อซิมโทรศัพท์ก่อนที่นายนิรุธจะตีเนียนทำทีเป็นนายวงศกรส่งข้อความ sms บอกนายศิริชัย น้องเมีย
และคนสุดท้ายคือนายเข้ ที่ตำรวจกำลังไปคุมตัวมาคาดว่าจะถึงโรงพักช่วงดึกคืนนี้ นายเข้ เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ให้นายศิวกรไปก่อเหตุ ทั้งนี้อยู่ระหว่างสอบเข้มผู้ต้องสงสัยที่เอาตัวมาที่โรงพักแล้วและกำลังเอาตัวมา และอยู่ระหว่างการหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อออกหมายจับ ทีมข่าวพยายามสอบถาม นายนิรุธ หรือยศ ว่ารู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ และอยากจะชี้แจงอะไรไหม แต่เจ้าตัวปิดปากเงียบไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะถูกคุมตัวเข้าห้องไป
ขณะเดียวกันตำรวจยังคุมตัว น.ส.ปาลิตา และ นายชัยณรงค์ สองแม่ลูกเจ้าของไร่อ้อย ที่มีรายการบันทึกการโทรเข้า-ออก กับเบอร์โทรปริศนา เข้ามาสอบปากคำ เนื่องจากมีข้อพิรุธหลายส่วนที่ต้องสอบปากคำขยายผลต่อ หลังจากสืบสวนสอบสวนพบว่านายศิวกรได้ไปกบดาน หลังจากที่มีชาวบ้านพบศพสามพ่อแม่ลูก ซึ่งนายศิวกรรู้จักกับนายชัยณรงค์ จึงไปกบดานชั่วคราว ตำรวจจึงได้คุมตัว น.ส.ปาลิตา และ นายชัยณรงค์ มาสอบเพิ่มเพื่อเป็นพยานคดี
ขณะที่ทีมข่าวพยายามสอบถามภรรยาและแม่ของนายนิรุธ แต่ทั้งสองคนก็บอกว่าไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็ตอบไม่ได้ว่าลูกชายและสามี ไปร่วมก่อเหตุในครั้งนี้หรือไม่ ตัวเองก็ยังรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะจู่จู่เมื่อไม่นานมานี้ตำรวจก็เพิ่งไปควบคุมตัวลูกชายมาจากบ้านเพื่อมาสอบปากคำ พร้อมกับจะนำรถมอเตอร์ไซต์ ของลูกชายมาตรวจสอบ
ต่อเวลา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยผลสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้งหมดที่คุมตัวมาคืนนี้ ล่าสุดรับสารภาพแล้ว 1 ราย แต่ในเรื่องทางคดียังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใครเป็นคนรับสารภาพ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลคดีต่อ โดยเบื้องต้นจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นายศิริชัย (บอล) น้องเมียผู้เสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องการก่อเหตุ และนายชัยณรงค์ก็ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เหมือนกัน
ขณะที่การสอบสวนเจ้าของร้านทองตามที่นายศิริชัย น้องเมียผู้เสียชีวิต และนายศิวกร ผู้ต้องสงสัยกล่าวอ้างว่าตัวนายวงศกรได้นำทองไปจำนำที่ร้านทอง โดยขณะนี้เริ่มสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าของร้านทอง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายศิวกร (โน๊ส) ผู้ก่อเหตุฆ่าอำพราง 3 ศพ ทำเนียนตีสนิทติดตามนักข่าวภูมิภาคเบี่ยงประเด็นสื่อ เข้าไปแฝงตัววันพบศพจุดเกิดเหตุ จากกรณีที่ “นายเจษฎา เรื่อศรีจันทร์” อายุ 40 ปี (โป๊ะซ่า) ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กำแพงเพชร และแอดมินเพจ “โป๊ะซ่า เกิดมาคุย” ได้เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกตกใจมากหลังทราบว่า นายศิวกร (โน๊ส) ผู้ต้องสงสัยที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไปสอบปากคำ ได้รับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก และเป็นเจ้าของปืนบีบีกันดัดแปลงที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยในวันที่พบ 3 ศพ ในที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 13.00 น. “นายเจษฎา” (ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กำแพงเพชร) ได้ขับรถยนต์เข้ามาจอดบนถนนหน้าจุดเกิดเหตุ และมีนายศิวกร (โน๊ส) ทำทีเดินตามพร้อมทักทายพูดคุยเรื่องการทำข่าวในจุดเกิดเหตุ แถมยังพูดกับผู้สื่อข่าว ว่า มันโหด มันทำได้ยังไง และวนเวียนอยู่ในจุดเกิดเหตุแฝงตัวกับผู้คนและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก เมื่อผู้สื่อข่าวเดินกลับไปที่รถหลังทำข่าวเสร็จ กำลังจะขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ นายศิวกร (โน๊ส) ก็เดินตามไปจนถึงรถของผู้สื่อข่าวและถามว่าจะไปไหนต่อ ซึ่งผู้สื่อข่าวตอบว่าเดี๋ยวจะไปโรงพัก ซึ่งก็ยังเอะใจว่านายศิวกร (โน๊ส) คือใคร ? ทำไมถึงดูเหมือนรู้จักกับตนแบบนี้
ต่อมาในช่วงเวลา 01.40 น. ของวันที่ 14 ก.พ.68 นายศิวกร (โน๊ส) ได้ทำทีส่งข้อความมาใน Line ของผู้สื่อข่าว ลักษณะแจ้งบอกแสว่าได้ข้อมูลจาก “นายโป๊งเหน่ง หรือนายบอล” น้องชายเมียผู้ตาย แจ้งว่าผู้ตายนำทองคำไปจำนำในตัวเมืองกำแพงเพชร จำนวนกี่บาทไม่แน่ใจ และถามว่ารู้เบาะแสหรือไม่ ? ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ตอบไปว่าไม่ทราบข้อมูลนี้ พร้อมแจ้งว่าพรุ่งนี้ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียงหน้ากระดานค้นหาหลักฐานที่จุดเกิดเหตุอย่างละเอียด โดยนายโน้ตได้ตอบกลับมาว่าหากตนได้ข้อมูลอะไรจะรีบแจ้งทันที
พอถึงช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.พ.68 เวลา 08.00 น. เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ยังจุดเกิดเหตุ หลังจอดรถปรากฏว่าพบนายศิวกร (โน๊ส) ยืนรออยู่และเดินตามผู้สื่อข่าวไปจนถึงทางเข้าจุดเกิดเหตุ และสอบถามว่าวันนี้จะทำอะไรกันบ้าง ? ซึ่งก็ได้ตอบกลับไปว่าคงจะหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียด โดยช่วงจากเสร็จภารกิจทำข่าวผู้สื่อข่าวได้เดินกลับมาที่รถปรากฏว่านายศิวกร (โน๊ส) ก็เดินตามมาและสอบถามอีกว่าได้อะไรบ้าง ? ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ตอบไปว่ายังไม่เจออะไรเลยและขับรถออกไป โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ช่วยฯ ว่าชายคนดังกล่าวที่ตามเรามาคือใคร ? ทำไมทำทีสนิทและรู้จัก ซึ่งก็เอะใจอยู่เหมือนกันว่าเป็นใครกันแน่ จนช่วงบ่ายตำรวจได้มีการเรียกตัวนายศิวกร (โน๊ส) มาสอบสวนอย่างละเอียดและทราบว่า นายศิวกร (โน๊ส) เป็นเจ้าของปืนบีบีกันดัดแปลงและรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว “นายเจษฎา เรื่อศรีจันทร์” หรือโป๊ะซ่า ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กำแพงเพชร รู้สึกตกใจกับ สิ่งที่นายศิวกร (โน๊ส) ได้ติดตามในการทำงานของตนเองมาตลอดสองวันไม่คิดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุและส่งข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงให้กับตน ซึ่งรู้สึกไม่ปลอดภัยในขณะนี้ โดยได้แจ้งข้อมูลไปยังผู้กำกับ สภ. คลองขลุง ถึงเรื่องดังกล่าวให้ทราบแล้ว
นายเจษฎา เรื่อศรีจันทร์ หรือโป๊ะซ่า ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กำแพงเพชร ยังกล่าวอีกว่า จากการกระทำดังกล่าวของนายศิวกร (โน๊ส) ตนรู้สึกว่า ผู้ต้องสงสัยไม่มีความสะถกสะท้านสำนึกผิด กลับยังทำทีมาหยั่งเชิง ถือเป็นการคุกคามในการทำหน้าที่สื่อมวลชนและสร้างความไม่ปลอดภัยในความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้ในวันที่พบศพทั้ง 3 นายศิวกร (โน๊ส) ยังทำทีเป็นไทยมุงมาดูเหตุการณ์ และติดตามการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิต และวนเวียนอยู่ในจุดเกิดเหตุ แฝงตัวกับ เจ้าหน้าที่และผู้คนจำนวนมาก
เบื้องต้นมีรายงานว่า ผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย 1.นายโน๊ต ทำหน้าที่นำปืนไปจำนำกับผู้ตาย และเป็นคนยิง รวมถึงยังเป็นคนส่งข้อความ sms ให้นายโป๊งเหน่ง น้องเมียนายวงศกร ผู้เสียชีวิต 2.นายนิรุธ หรือ ยศ ทำหน้าที่ซื้อซิมจากคนงานชาวเมียนมา 3.นายเข้ ทำหน้าที่ ช่วยยกศพและขับมอเตอร์ไซค์นำทางเข้าไปในที่เกิดเหตุ 4.นายชัยณรงค์ ให้ที่พักพิง แก่ นายโน๊ต ศิวกร และเป็นคนเก็บซิมการ์ดเอาไว้ แต่ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ ซึ่งตำรวจยังสอบปากคำอย่างละเอียดคาดว่าน่าจะตลอดคืน ซึ่งผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งคนคือ “นายเข้” ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบปากคำ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะให้ทีมประดาน้ำลงค้นหาในสระหลังบ้านล้าง กว้าง 20 เมตร เพื่อหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี