จับ29แก๊งคอลฯ‘ท่าขี้เหล็ก’
เมียนมาลุยหลังไทยกดดัน
“ตำรวจท่าขี้เหล็ก” เมียนมา ลุยจับยกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบซุ่มเงียบในเขตสันทราย เมืองท่าขี้เหล็ก 29 คน เป็นชาวเมียนมา 22 คน ชาวไทย 7 คน หลังถูกไทยกดดันอย่างหนักขณะที่ ไทย-เมียนมา ประชุม TBCหารือแนวทางการช่วยเหลือเหยื่อคอลเซ็นต์เตอร์และการค้ามนุษย์
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 มีรายงานจาก สำนักข่าว Tachileik News Agency แจ้งว่าช่วงคืนวันที่ 12- 14 ก.พ.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ปราบปรามการเปิดบ่อนการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย รวมถึงจับกุมขบวนการหลอกลวง หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้บุคคลและของกลางเป็นจำนวนมากในเขตสันทรายภายในตัวเมืองท่าขี้เหล็ก โดยมีผู้ถูกจับกุมจำนวน 29 คน เป็นชาวเมียนมา 22 คน และชาวไทย 7 คน
โดยกลุ่มแรกถูกจับจำนวน 16 คน หลังจากเปิดอาคารในเขตดังกล่าวเป็นบ่นอการพนันออนไลน์ เมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปจับกุมตัวได้ทั้งหมดแล้วได้ตรวจสอบของกลางพบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปจำนวน 61 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ 329 เครื่อง, ระบบ CPU จำนวน 90 อัน, โทรศัพท์มือถือจำนวน 90 เครื่อง รถยนต์จำนวน 2 คัน และกลุ่มที่ 2 ถูกจับกุมภายในบ้านพักหลังหนึ่ง
โดยรายที่ 2 นี้พบมีคนอยู่ภายในจำนวน 13 คน เป็นคนไทยจำนวน 7 คน ที่เหลือเป็นชาวเมียนมาที่มีทั้งชายและหญิง สามารถยึดของกลางเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 50 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 300 เครื่อง เอกสารต่างๆ ซึ่งธุรกิจมืดนี้ถูกระบุว่าเป็นของชาวต่างชาติที่อาศํยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน
สำหรับการปราบปรามของทางการเมียนมาดังกล่าวมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากทางการไทยได้งดส่งกระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง และอินเตอร์เน็ต ที่เคยผ่าน 5 ช่องทางคือที่ อ.แม่สอด จ.ตาก 2 จุด,จ.กาญจนุบรี 1 จุด และที่ อ.แม่สาย 2 จุด เพื่อกดดันหรือตัดวงจรแก๊งหลอกลวงต่างๆ
วันเดียวกัน พล.ต.ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 /ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา (แม่สอด-เมียวดี) Township Border Committee-Thai land–Myanmar - TBC. โดยมี พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ในฐานะประธาน TBC ฝ่ายไทย และ พ.ท.ซอฮันอุน ผู้บังคับกองพัน ร.275 เมียวดี ในฐานะประธาน TBC ฝ่ายเมียนมา พร้อมคณะกรรมการ TBC แม่สอด-เมียวดี เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยนายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก พ.ต.อ.ศราวุธ แผลงปัญญา รองผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธร ภาค 6. รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด-พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ศรีชัยชนะ ผู้กำกับการตำรวจตระเวณชายแดนที่ 34 (ค่ายพระเจ้าตาก)- ผู้แทนผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหหวัดตาก(ด่านแม่สอด)- ทหารกองกำลังนเรศวร-ฝ่ายปกครอง-หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม พร้อมคณะกรรมการ TBC ฝ่ายเมียนมา จ.เมียวดี ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด จ.ตาก
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุม ร่วมกันของคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา (แม่สอด-เมียวดี) Township Border Committee-Thai land–Myanmar - TBC. เพื่อวางแผนการปฎิบัติการร่วมกัน พร้อมหารือแนวทางการช่วยเหลือ เหยื่อคอลเซ็นต์เตอร์และการค้ามนุษย์ ที่ฝั่งสหภาพเมียนมา ในการช่วยเหลือเดินทางมายังฝั่งไทย ต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ธนาธิป สว่างเเสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ร่วมหารือกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม, พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) , พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) , พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าร่วมประชุม ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือถึงการเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ และปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงที่คุกคามชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
โดยในที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงแนวทางการบูรณาการกำลังพลและทรัพยากรของกองทัพ เพื่อสนับสนุนมาตรการของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมามาตรการการตัดเส้นทางลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิง-ตัดไฟ-สัญญานอินเทอร์เน็ต ถือเป็นมาตรการที่เด็ดขาดและได้ผล โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอเร่งรัดคณะกรรมการนโยบายด้านชายแดนให้ขยายแผนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และขอให้รายงานกลับมาอีกครั้งในเวลา 1 เดือน
จากผลการดำเนินดังกล่าวข้างต้นเป็นผลทำให้การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ การพนันผิดกฎหมาย การหลอกลวงทางคอลเซ็นเตอร์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือของประเทศเพื่อนบ้านที่มีนโยบายที่เด็ดขาดต่อกลุ่มอาชญากรรมที่ผ่านมา
โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานอย่างที่เต็มที่ และขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ทั้งเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติ คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ที่ร่วมกันแก้ปัญหาต่างๆ จนทำให้ปัญหาต่างๆ สามารถคลี่คลายไปได้ด้วยดี พร้อมกับฝากความห่วงใยไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังไม่ประมาท และขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมแก้ปัญหาด้วยกัน โดยรัฐบาลจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขให้ปัญหาหมดไปโดยเร็ว
นอกจากนี้ รองนายกและรมว.กลาโหม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงกลาโหมพร้อมสนับสนุนมาตรการรัฐบาลในการแก้ไขการก่ออาชญกรรมข้ามชาติ รวมถึงการประสานความร่วมมือขยายแผนการทำงานของคณะกรรมการนโยบายด้านชายแดน เพื่อปิดช่องโหว่ของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติให้หมดไป โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับคนไทยทุกคน ส่วนการส่งตัวบุคคลต่างชาติที่ถูกหลอกลวงและค้ามนุษย์ กลับไปยังประเทศต้นทางที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือที่ดีจากทุกฝ่าย รวมถึงกองกำลังป้องกันชายแดน ซึ่งคนเหล่านี้จะเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน พร้อมมีการซักถามประวัติรายละเอียดต่างๆ เพื่อบันทึกจัดทำเป็นฐานข้อมูลในไปสู่การแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี