‘ไอ้โน๊ต’ไม่สะท้าน ตร.คุมสอบเพิ่ม ญาติเหยื่อ 3 ศพคาใจขอคุย ‘ครูลิเก’เผยชีวิตวัยเด็ก
ความคืบหน้าคดีพบศพพ่อแม่ลูก 3 ราย ถูกฆ่าอำพรางในรถกระบะ จอดอยู่ภายในบ้านร้างริมถนน ใน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังหายตัวไปตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2568 ก่อนตำรวจคุมตัว 3 ผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ โดยหนึ่งในนั้น คือ นายศิวกร หรือโน๊ต ที่รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงฆ่ายกครัว อ้างว่าไม่พอใจที่นายวงศกร หรือใหม่ ผู้ตาย ที่บอกว่าจะให้ยืมเงิน 1 แสนบาท เพื่อไปลงทุนทำธุรกิจทางการเกษตร แต่เมื่อลงทุนไปแล้ว ผู้ตายทำเฉยไม่ให้เงิน ขณะที่ผู้ต้องหาอีกราย คือ นายนิรุตย์ หรือเข้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หิ้วตัว'ไอ้โน้ต-ไอ้เข้'ทำแผนฆ่า 3 ศพ ชาวบ้านแห่ดูหน้าคนใจทมิฬ หวิดโดนรุมประชาทัณฑ์)
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) กำแพงเพชร เดินทางมาร่วมสอบสวนคดีเพิ่มเติม โดยนำตัวนายศิวกร หรือโน้ต มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีภรรยาพร้อมทนายความ ร่วมฟังการสอบปากคำ
นายโน๊ต มีสีหน้าไม่สะทกสะท้านเหมือนเช่นเคย ซึ่งระหว่างสอบสวนอยู่นั้นได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเรื่องคาใจในหลายประเด็น
นายสุพัฒน์ ลูกพี่ลูกน้องของนายใหม่ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติยังสงสัยในประเด็นต่างๆหลายประเด็น โดยเฉพาะเส้นทางที่ไปกันนั้น ไปกับใครไปด้วยกันได้อย่างไร ทำไมถึงต้องยิงกัน ทรัพย์สินมีอะไรบ้าง จริงๆแล้วมีเท่าไร รวมทั้งอาวุธปืนเอาไปไว้ไหน อยากให้พูดมาให้หมด จะได้ง่ายต่อคดี และตนยังมองว่าจากคำให้การเรื่องนี้มันแปลกๆ ที่อยู่ๆจะชวนกันไปกลางทุ่งนา เรื่องเงินคุยที่ไหนก็คุยได้ ที่บ้านก็คุยได้ ทำไมต้องไปยังจุดนั้น อีกทั้งยังมองว่าคนที่ลงมือฆ่าเป็นทั้ง 2 คนอยู่แล้ว คนเดียวทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะอีกคนจะให้เขาชวนไปได้อย่างไร วันนี้พร้อมที่จะคุยกันตรงๆแบบลูกผู้ชาย
ส่วนนายสะเทื้อน นาคเมือง หรือ “ครูเผ” อายุ 60 ปี หัวหน้าคณะลิเกคลองขลุงบำรุงศิลป์ เปิดบ้านให้ดูชุดที่นายโน๊ต ใส่แสดงลิเกเป็นตัวโจ๊กเมื่อตอนยังอยู่ที่นี่ พร้อมเล่าว่า ตนได้เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูฝึกสอนลิเกให้นายโน๊ตมาตั้งแต่นายโน๊ตอายุได้ 3 ขวบ ฝึกร้องฝึกรำ ให้เล่นเป็นตัวโจ๊ก และหาบทเด่นๆให้
ครูเผ กล่าวว่า พอตนรู้ข่าวรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เราบ่มเพาะเขามา เพราะเขาเกิดจากตรงนี้ เกิดจากลิเก ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เพาะบ่มไม่ได้ซึมไปในจิตใจเขาเลย แต่ยอมรับว่านายโน๊ตเป็นคนใจร้อนมาตั้งแต่เด็ก โดยยังรู้สึกกลัวกระทบต่อกับคำว่าลิเก เพราะทุกคนเอ่ยถึงด้านที่เขาเป็นลิเกออกไปด้วย นายโน๊ตเป็นลิเกตั้งแต่เด็ก หัดลิเกให้ตั้งแต่ ป.3 จนเล่นลิเกได้ จากนั้นก็ไปอยู่คณะอื่น แต่ตนคุยให้คำปรึกษาตลอด
“นายโน๊ตเป็นคนขี้งอน ขี้ใจน้อย ใจหนัก แต่ด้วยเราทราบว่าครอบครัวเขามีปัญหา พ่อแม่ไปทาง ก็พยายามเอาเพื่อนเข้ามาคอยซึมซับให้ไม่ขาด เขาเป็นลูกคนเล็ก พี่เขาก็เป็นเด็กดีนิสัยต่างจากเขา ณ ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเสียใจว่าทำไม เรามีแบบอย่างให้ดูมากมาย การมาเล่นลิเกก็ฝึกความอดทน อดกลั้น แก้ปัญหาได้ แต่เขากลับไม่ใช้เลย พอข่าวออกไปก็มีคนโทร.มาถาม เราก็ได้แต่ตอบไปว่าสิ่งที่ดีที่สุดเราให้เขาไปหมดแล้ว แต่เขาล้นออกไปเอง” ครูเผ กล่าว
ขณะที่นายศราวุธ หรืออาร์ม รุ่นพี่ในคณะลิเกที่อยู่กับครูเผ เปิดเผยหลังทราบข่าวความโหดเหี้ยมของอดีตลิเกรุ่นน้องคนสนิทว่า ตั้งแต่ตนเข้ามาคณะลิเก ก็มีนายโน้ตอยู่ในคณะแล้ว ตอนนั้นนายโน๊ตเล่นเป็นดาวร้าย สนิทกันเหมือนพี่น้อง แต่โน๊ตจะขี้งอนหนีงาน ถึงขนาดงอนครูเจ้าของคณะลิเกที่ฝึกที่เลี้ยงดูมา หนีออกจากคณะไปก็มี ครูก็ให้อภัย พองอนก็ออกไปอีก กระทั่งไปเรียนในตัวเมืองกำแพงเพชร ก็ได้ไปเล่นลิเกอีกคณะหนึ่ง จากนั้นนายโน๊ตก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย จนมาเจอข่าวก็สลดใจไม่คิดว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ อยากถามว่าทำได้อย่างไรขนาดนี้ มันโหดร้ายเกินไป แม้กระทั่งเด็กยังทำได้ลงคอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี