เสร็จจากประชุม ครม.สัญจรที่สงขลา "รมว.ทส."เตรียมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่า กลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ กาญจน์ พร้อมเชิญทุกหน่วยงาน ร่วมหาแนวทางการป้องกัน เฝ้าระวัง ไม่ให้เกิดไฟไหม้ในพื้นที่ป่าอย่างจริงจัง
วันนี้ (17 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ไฟป่าที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีอยู่ในกลุ่มป่าตะวันตกหรือกลุ่มป่าที่ 12 เป็นกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ ประกอบด้วยพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติลำคลองงู และอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพระฤาษีและป่าเขาบ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง ป่าเขาพระฤาษีและป่าเขาบ่อแร่แปลงที่สอง ป่าโรงงานกระดาษไทยแปลงที่หก และป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย รวมเนื้อที่ 5,338,251.70 ไร่ ซึ่งมีความแห้งแล้งทำให้เกิดสถานการณ์ไฟป่าก่อนภาคอื่นๆ ทำให้เกิดไฟป่าได้โดยง่าย ส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์ โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส.มอบหมายให้ นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เป็นหัวหน้าศูนย์บัญชาการประจำกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.68 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ลงนามในคำสั่งประกาศจังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง ห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2568 พร้อมบังคับให้พนักงานเจ้าหน้าที่ บังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืน ซึ่งจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย อย่างเด็ดขาด
ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 74 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 220 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆแม้เป็นของตนเองจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท โดยให้นายอำเภอทุกอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องสอดส่องดูแลเอาใจใส่
ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะให้ความร่วมมือกับการรณรงค์ของภาครัฐก็ตาม แต่ยังมีประชาชนบางส่วนไม่ให้ความสนใจเพราะความที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง จึงมีการลักลอบเผา และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวดำเนินคดีมาแล้วอย่างน้อย 4-5 คดี กรลักลอบเผาคือเหตุผลหลักที่ทำให้ตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นในพื้นที่กลุ่มป่าที่ 12 ป่ารอบเขื่อนศรีนครินท์ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าเขาที่สลับซับซ้อนและสูงชัน
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (เสือไฟ)รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.) เครือข่ายภาคประชาชนที่เข้ามาสนับสนุนภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และผู้นำท้องถิ่นผู้นำท้องที่และชาวบ้านที่เป็นจิตอาสาในพื้นที่นั้นๆ ต้องแบ่งกำลังเข้าปฏิบัติการดับไฟป่าบนยอดเขาสูงชันพร้อมๆกันหลายจุด เจ้าหน้าที่แต่ละชุดสลับสับเปลี่ยนกำลังเฝ้าระวังนานถึงชุดละ 3 วัน 2 คืน กว่าสถานการณ์ไฟป่าจะกลับเข้าสู่สภาวปกติอย่างน้อยต้องรอให้ถึงวันที่ 30 เม.ย.2568
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่น PM2.5 ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี พร้อมมอบสิ่งของ เป็นกำลังใจ ให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า พร้อมกำชับเข้มงวดพื้นที่ป่า และป่าอนุรักษ์ ให้มากที่สุด
ในวันดังกล่าวยังได้ส่งกำลังใจไปถึงเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่ใกล้เคียง อุทยานแห่งชาติเขาแหลมและอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี ที่ยังคงมีจำนวนจุดความร้อนมากที่สุด ทั้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ
อีกทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าทุกคน ที่ทุ่มเทเสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ ระดมสรรพกำลังเข้าดำเนินการดับไฟ และทำแนวควบคุมไฟป่าในพื้นที่ความรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อสั่งการกำชับ ขอให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังไฟป่าอย่างเข้มงวด ไม่ให้เกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไฟ ปกป้องชีวิต ลดความเสี่ยงภัยพิบัติ และรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าไว้ให้คนรุ่นหลังได้อย่างยั่งยืน
ส่วนตัวจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหลังจากประชุม ครม.สัญจรที่ จ.สงขลา ในวันอังคารที่ 18 ก.พ.68 เรียบร้อยแล้ว จะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM2.5 อีกครั้ง พร้อมทั้งจะเชิญหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ตลอดจนผู้นำชุมชน มาร่วมกันหารือถึงแนวทางการป้องกัน เฝ้าระวัง ไม่ให้เกิดไฟไหม้ในพื้นที่ป่าอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่งต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี