ตำรวจกำแพงเพชรคุมตัว‘ไอ้โน๊ต-ไอ้เข้’ฆ่ายกครัว 3 ศพ ฝากขังพร้อมค้านประกันตัว ‘ไอ้โน๊ต’ฉุนเฉียวเอ่ยปากขอโทษ
ความคืบหน้าคดีพบศพพ่อแม่ลูก 3 ราย ถูกฆ่าอำพรางในรถกระบะ จอดอยู่ภายในบ้านร้างริมถนน ใน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังหายตัวไปตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2568 ก่อนตำรวจคุมตัว 3 ผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ โดยหนึ่งในนั้น คือ นายศิวกร หรือโน๊ต ที่รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงฆ่ายกครัว อ้างว่าไม่พอใจที่นายวงศกร หรือใหม่ ผู้ตาย ที่บอกว่าจะให้ยืมเงิน 1 แสนบาท เพื่อไปลงทุนทำธุรกิจทางการเกษตร แต่เมื่อลงทุนไปแล้ว ผู้ตายทำเฉยไม่ให้เงิน ขณะที่ผู้ต้องหาอีกราย คือ นายนิรุตย์ หรือเข้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ไอ้โน๊ต’ไม่สะท้าน ตร.คุมสอบเพิ่ม ญาติเหยื่อ 3 ศพคาใจขอคุย ‘ครูลิเก’เผยชีวิตวัยเด็ก)
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ สภ.คลองขลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมนายศิวกร หรือโน๊ต อายุ 27 ปี และนายนิรุตย์ หรือเข้ อายุ 25 ปี ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกำแพงเพชร หลังจากควบคุมตัวและมีการสอบสวนครบ 48 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคัดค้านการประกันตัว ให้เหตุผลว่า เกรงว่าจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม
บรรยากาศในช่วงเช้ามีนายนัส พี่ชายนายโน้ต ที่เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) มารับนายโน้ต หลังนำศพมาทิ้งในบ้านร้าง
นายนัส ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากน้องชายโทร.หาแม่บอกให้ไปรับ แม่ก็ให้ตนเองไปรับแทน ซึ่งนายโน๊ตก็ได้โทรศัพท์มาหาตน เพื่อให้ไปรับกลับบ้าน วันนั้นตนไม่รู้ว่าน้องชายไปก่อเหตุมา จึงได้รับกลับบ้านตามปกติ ซึ่งวันนี้ตนมาให้ปากคำกับตำรวจ ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจอะไร วันนี้ยังไม่ได้เข้าเยี่ยมน้องชาย แต่ก่อนหน้านี้มีแม่มาเยี่ยมน้องชายไปแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้ฝากอะไร แต่เขาเป็นคนที่รักสุนัขพันธุ์ชิวาวาชื่อว่า “ข้าวหอม” ซึ่งเป็นสุนัขที่ตนซื้อให้เขาเลี้ยง เขารักสุนัขตัวนี้มาก ส่วนเรื่องประกันตัวยืนยันว่าทางครอบครัวจะยังไม่มีการยื่นประกันตัวน้องชายแต่อย่างใด
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงแจ้งข้อหานายโน๊ต และนายเข้ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย , ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันสมควรแก่พฤติการณ์
ทั้งนี้ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปฝากขังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญแพทย์เข้ามาตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยนายโน๊ตนั่งคู่กับภรรยาที่เข้ามาเป็นพยานและร่วมสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งคู่อยู่ในอาการเครียดตลอดเวลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายโน๊ตออกมาก่อนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ยอมพูดจาหรือตอบคำถามใดๆ
แต่เมื่อเข้าไปภายในรถควบคุมตัวผู้ต้องขัง นายโน๊ต กล่าวด้วยอารมฉุนเฉียวว่า “ผมขอโทษทุกคนก็ได้ครับพี่ ผมอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ทุกอย่างแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ไม่เสียใจที่ญาติไม่มาประกันตัว ตนสมควรโดนแล้วครับ ผมขอรับผิดคนเดียว ขอโทษเข้ตั้งแต่ในห้องขังแล้วที่ต้องพาน้องมาผิดด้วย ส่วนเรื่องลักทรัพย์ในบ้านนายใหม่ ตำรวจนำตัวตนมาพิมพ์ลายนิ้วมือคนเดียว คนในบ้านเขาก็ไม่มีใครเชิญตัวมา”
ทั้งนี้ยังมีประโยคเด็ดว่า “นักข่าวตีข่าวมาที่ผมคนเดียวได้เลยครับ คนอื่นไม่ได้รู้เรื่อง อยากขอโทษครอบครัวเขา แต่ขอโทษไปก็สายแล้วครับ”
ส่วนเรื่องโทรศัพท์ของคนตาย ถามว่าเอาไปไว้ไหน นายโน๊ตก็ตอบมาด้วยท่าทางไม่พอใจ พร้อมตะคอกมาว่า “ผมคงเอาใช้เองแล้วมั้งครับพี่ ก็บอกว่าเอาไปโยนทิ้งแล้ว”
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี