เปิดเส้นทาง'ดีเอสไอ'ล่องเรือตามข้อมูล GPS พร้อมใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกนภูมิประเทศบริเวณ3จุดหลักนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ประกอบข้อมูล GPS เรือ-โทรศัพท์
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ก.พ.2568 พ.ต.ต.ณฐพล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พาตัวแทนสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ท โดยวันนี้ได้มีการเตรียมเรือ ที่จะใช้ในการตรวจสอบจุดต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 5 ลำ
โดยเรือทั้งหมดเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรกที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการสแกนพื้นที่คือบริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับบริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยจุดนี้ได้นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประกอบประมวลเป็นภาพ 3 มิติ เส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS เรือ
จากนั้นเรือได้แล่นมุ่งหน้าต่อไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพานพระราม 7 มาจอดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยาบริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา โดยบริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้จอดให้คณะพนักงานสอบสวน และสื่อมวลชนบันทึกภาพ และใช้เครื่องมือสแกนบริเวณโดยรอบพื้นที่ รวมถึงสแกนหาวัตถุใต้ผิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณจุดนี้เรือชะลอความเร็วเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกนทั้งทางอากาศ และทางน้ำ รวมถึงมาจำลองตามคำกล่าวอ้างที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโม โดยบริเวณจุดที่ตรงกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เรือลำของนายแพทย์ธวัชชัยให้ความสนใจ และใช้เวลาลอยลำอยู่ตรงจุดนี้ประมาณ 15 นาที
ส่วนทางคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำเรือลอยลำสำรวจตามจุดต่างๆ ล่วงหน้า ไปตามจุดต่างๆ ทั้งหมด 8 จุดตามที่แจ้งกับสื่อมวลชนไว้
จากนั้นเรือได้แล่นย้อนกลับมามุ่งหน้าทิศเหนือ มาจอดเทียบท่าบริเวณวัดค้างคาวโดยจุดนี้ นายไกรศรี พร้อมคณะฯ ได้นำเครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกนภูมิประเทศ โดยบริเวณที่ใช้เครื่องสแกนได้สแกนภูมิประเทศตรวจสอบโครงสร้างบริเวณประตูระบายน้ำใกล้เคียงวัดค้างคาว และนำมาประมวลผลประกอบเป็นภาพสามมิติ ก่อนนำไปประกอบกับข้อมูล GPS เรือ และสัญญาณโทรศัพท์ โดยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษใช้เวลา บริเวณจุดนี้ประมาณ 30 นาที โดยพื้นที่สแกนหลักๆ มี 3 จุดคือบริเวณท่าเรือวัดค้างคาว, ประตูระบายน้ำ และตลอดเส้นทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ ตลอดช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้แล่นเรือสำรวจ 3 จุดหลักๆ คือบริเวณกลางลำน้ำใกล้กับซอยจรัญสนิทวงศ์ 92, ท่าเรือวัดค้างคาว และท่าทรายบริเวณหน้าบริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยหลักๆใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่งและโดรนเก็บรวบรวมข้อมูล
นายไกรศรี ให้สัมภาษณ์ว่า จุดนี้เจ้าหน้าที่ให้ความสนใจ เนื่องจากได้ข้อมูลมาว่าเรือลำเกิดเหตุลอยลำอยู่บริเวณนี้เป็นเวลานาน ซึ่งจะนำไปรวบรวมข้อมูลกับที่ได้มาก่อนหน้านี้ โดยความพิเศษของเครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง จะสามารถจำลองเหตุการณ์เทียบเคียงภาพเสมือนจริงได้มากที่สุดในคอมพิวเตอร์เทียบกับวันเกิดเหตุ โดยเครื่องนี้จะสามารถทำงานประกอบกับข้อมูล GPS เนื่องจากใช้ระบบเดียวกันผ่านสัญญาณดาวเทียม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล GPS ข้อมูล GPS โทรศัพท์ และภาพถ่ายแผนที่ดาวเทียม แล้วจะนำไปทำรูปแบบคอมพิวเตอร์กราฟฟิกสามมิติจำลองเหตุการณ์ประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยจะใช้วิธีการตั้งสมมุติฐานว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน ให้มีความใกล้เคียงกับข้อมูลที่ได้จากพยานให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม อุปสรรคในวันนี้ที่มีผลกับเครื่องมือ คือเรื่องของกระแสน้ำ เนื่องจากเครื่องมือจะต้องอยู่ในสภาพพื้นที่นิ่งเพื่อที่จะประมวลผลได้แม่นยำ
สำหรับเครื่องเลเซอร์สแกนดังกล่าวมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ราคาตัวละประมาณ 1 ล้านบาท โดยทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้นำมาใช้ในการเก็บข้อมูลประกอบกับหลักฐานที่ได้มาก่อนหน้านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี