‘ป.ป.ส.’ยึด‘ไอซ์’ 500 กิโลกรัม ซ่อนบนรถบรรทุก ขยายผลแก๊งค้ายาข้ามชาติต่อเนื่อง 5 จังหวัด จับกุม 3 ผู้ต้องหา มือขนลำเลียงจาก‘ตาคลี’นครสวรรค์ เตรียมผ่องถ่ายลง‘บางใหญ่’นนทบุรี พร้อมยึดทรัพย์รวม 9 ล้าน ขณะที่ผู้ต้องหาสารภาพ ได้ค่าจ้างขน 100,000 บาทต่อครั้ง ทำมาแล้ว 4 ครั้ง
17 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้อง ศปก.ชั้น 4 อาคาร 2 สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) กรุงเทพฯ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผบก.รน. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) , พ.อ.อภิชัย ทองธรรมชาติ รอง ผบช.หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ขกท.) , นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งต่างประเทศ จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมไอซ์ 500 กิโลกรัม (กก.) ซึ่งลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากชายแดนพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเตรียมลำเลียงไปยังประเทศที่สาม เหตุเกิดที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ต่อเนื่อง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และ จ.เชียงใหม่ ขยายผลตรวจค้น 5 จุด โกดังและบ้านพัก ในพื้นที่ จ.เชียงราย และ กทม. พบไอซ์จำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์การเสพ ตรวจยึดทรัพย์สิน อาทิ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ ทองรูปพรรณ เงินสด รวมมูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจและทหาร สืบสวนพฤติการณ์ขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับรายงานจาก นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. กรณีพบรถบรรทุกต้องสงสัยที่เป็นเครือข่ายลำเลียงยาเสพติด ขับมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ภาคกลาง จึงสั่งการให้ติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่รถบรรทุกคันดังกล่าวขับเข้าเขตพื้นที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น พบ ไอซ์ 500 กิโลกรัม บรรจุ 20 กระสอบ มีน้ำหนักกระสอบละ 25 กิโลกรัม พร้อมจับกุมคนขับรถบรรทุก
ทั้งนี้ คนขับรถบรรทุกให้การว่าเตรียมนำยาเสพติดไปส่งบริเวณพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่จึงขยายผลเพื่อจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้อง กระทั่งวันที่ 16 ก.พ. เวลาประมาณ 05.00 น. สามารถจับกุมบุคคลที่มารับยาเสพติด 1 ราย พร้อมรถกระบะตู้ทึบ ที่เตรียมมาขนถ่ายยาเสพติด มีบุคคลที่หลบหนี 2 ราย เหตุเกิดที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำคนขับรถบรรทุก ให้การว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค.68-ปัจจุบัน ได้รับจ้างลำเลียงยาเสพติดมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างเป็นเงินสดครั้งละ 100,000 บาท ส่วนพื้นที่ส่งมอบยาเสพติด ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี และ จ.นนทบุรี โดยรับว่าไปลำเลียงยาเสพติดมาจากโกดังในพื้นที่ จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งตรวจสอบข้อมูล กระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น. สามารถติดตามจับกุมบุคคลที่นำยาเสพติดมาส่งมอบให้คนขับรถบรรทุกที่โกดังได้ที่ จ.เชียงใหม่
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่มาของการสืบสวนจับกุมเริ่มจากสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคี ได้ดำเนินการสืบสวนเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติมาอย่างต่อเนื่องโดยตั้งแต่เดือน ก.ค.67-ปัจจุบัน (ระยะเวลา 7 เดือน) ได้สืบสวนจับกุมเครือข่ายดังกล่าวรวม 3 คดี พร้อมตรวจยึดยาเสพติด (ไอซ์และเฮโรอีน) ปริมาณเกือบ 1 ตัน ยึดทรัพย์กว่า 18 ล้านบาท ปลายทางของยาเสพติด ได้แก่ มาเลเซีย ฮ่องกง ออสเตรเลีย เป็นต้น
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้มักมีคำถามเยอะว่าทำไมเราจับได้เฉพาะแรงงานหรือคนขนลำเลียง จึงต้องเรียนว่านายทุนใหญ่มักจะอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถือว่าเราก็ได้จับในผู้ต้องหาระดับเป็นผู้สั่งการขึ้นมา ถือว่าเป็นการหยุดความเคลื่อนไหวได้ ซึ่งหากคนไทยถูกออกหมายจับก็จะหลบไปอยู่ที่ประเทศเมียนมา หรือ สปป.ลาว ดังนั้นเรื่องความร่วมมือถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และไทยเองก็มีความร่วมมือระหว่างไทย-เมียนมา และไทย-สปป.ลาว
ทั้งนี้ ทราบว่าภายในปลายเดือน ก.พ.นี้ จะมีการประชุมร่วมกันของ 3 ฝ่าย และจะมีการเปิดปฏิบัติการร่วมกัน เช่น หากมีการตรวจค้นในฝั่งไทย ในฝั่งเมียนมา และ สปป.ลาว ก็จะเป็นการเปิดปฏิบัติการร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เท่าที่มีการสืบสวนส่วนใหญ่ นายทุนจะเป็นกลุ่มทุนจีน แต่ก็ต้องอาศัยความเข้มแข็งของประเทศนั้น ๆ ด้วย อย่างกรณีของเมียนมา เข้าใจได้ว่าบางพื้นที่ก็เข้าไม่ถึงเพราะมีชนกลุ่มน้อย อันนี้ตนได้นำเรียนผู้ใหญ่ไปแล้วว่าจะต้องมีการขอความร่วมมือไปยังแหล่งผลิตยาเสพติด ซึ่งก็คือที่รัฐฉาน อยู่ติดกับมณฑลยูนนาน ประเทศจีน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับ Drug Profile การตรวจคุณสมบัติของยาเสพติด อย่างไอซ์ คือ เพียวเมทแอมเฟตามีน แต่ถ้ายาบ้าจะมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน ประมาณ 17-21 % ซึ่งเมทแอมเฟตามีนที่ผสมในยาบ้า จะมีสารตั้งต้นที่เรียกว่า อีเฟดรีน (Ephedrine) ส่วนซูโดอีเฟดรีน เป็นภาษาละติน แปลว่าของปลอมของเทียม จึงเป็นสารสังเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ที่เราเคยจับได้ ถ้าเป็นซูโดอีเฟดรีนในยาบ้าหรือไอซ์ จะมาจากประเทศอินเดีย แต่ถ้าเป็นอีเฟดรีนในยาบ้าหรือไอซ์ จะมาจากพืช ซึ่งพืชตัวนี้ปลูกที่ประเทศจีนอย่างเดียว นี่จึงเป็นส่วนที่เราจะขอความร่วมมือจากจีนให้ช่วยสกัดกั้นสารตั้งต้นจากมณฑลยูนนานที่จะเข้าไปยังแหล่งผลิตยาเสพติดสำคัญในรัฐฉาน
เมื่อถามว่าปัจจุบันนี้ทางการไทยได้รับการประสานความร่วมมือจากทางการจีน กรณีมีผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่หลบหนีกบดานในประเทศไทยเพื่อประสานการส่งตัวดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ระบุว่า ในตอนนี้ยังไม่มี แต่ก่อนหน้านี้เคยมีเคสหมายจับผู้ต้องหาชาวจีน ทางการจีนได้ส่งมาขอให้เราช่วยจับกุม ซึ่งเป็นเคสสารเอโทมีเดท ที่ถูกนำมาเพื่อจะใช้ผสมกับบุหรี่ เราจึงจับส่งผู้ต้องหาให้ทางการจีนไป
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ระบุอีกว่า การที่ตนเดินทางไปยังประเทศเมียนมา และ สปป.ลาว บ่อยครั้งเพื่อไปขอความร่วมมือ เพื่อที่จะบอกกล่าวว่าประเทศมีพรมแดนจริง แต่ปัญหาเรื่องยาเสพติดนั้นต้องไร้พรมแดน ต้องไม่มีเส้นแบ่ง ต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน อย่างที่เห็นในการข่าวที่ผ่านมา จะสังเกตเห็นว่า สปป.ลาว ได้ช่วยจับผู้ต้องหาที่เป็นคนไทยที่มีหมายจับซึ่งไปหลบซ่อนที่ลาวแล้วส่งกลับให้เราได้ดำเนินคดี
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ทิ้งท้ายว่า นอกจากสำนักงาน ป.ป.ส. จะมุ่งเน้นการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตกอย่างเข้มข้นแล้ว สำนักงาน ป.ป.ส. ยังมีมาตรการขยายผลการสืบสวนเพื่อตรวจยึดทรัพย์สิน และผู้เกี่ยวข้อง นายทุนผู้สั่งการ มาดำเนินคดีตามกฎหมายควบคู่กันไป โดยมีเป้าหมายเพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดอย่างเป็นระบบ และยิ่งในปัจจุบันปัญหาการค้ายาเสพติดในลักษณะเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาค การบูรณาการทางการข่าวระหว่างหน่วยงานภายในประเทศ และ หน่วยงานระหว่างประเทศ ก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากในปัจจุบัน ซึ่ง สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวเกี่ยวกับเครือข่ายการค้ายาเสพติด ร่วมกับหน่วยงานภาคีภายในประเทศ และหน่วยงานระหว่างประเทศ จนนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ในการสืบสวนขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี