นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ผลักดันนโยบายผู้ว่าฯกาญจนบุรีในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเปลือกและซังข้าวโพดทดแทนการเผา ส่วนฝุ่น PM2.5 มีค่า 55.8 มคก./ลบ.ม.

วันนี้ (17 ก.พ.68) นายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรีกล่าวว่า ตามที่อำเภอศรีสวัสดิ์ กำหนดยุทธการ “90 วัน คนดีไม่เผา คนเผาโดนจับ” เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่ออกประกาศห้ามเผาทุกพื้นที่ในจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงการส่งเสริมพี่น้องเกษตรกรใช้ทางเลือกอื่นทดแทนการเผาเศษวัสดุจากการทำเกษตร เพื่อแก้ไขและป้องกัน ปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนชาวกาญจนบุรีนั้น 

ปัจจุบันพี่น้องชาวเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ ได้ร่วมมือดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวข้างต้นเป็นอย่างดี โดยไม่มีการเผาเศษวัสดุจากการทำไร่ข้าวโพดที่เหลือ คือเปลือกและซังข้าวโพดเลย ทำให้สถิติการเผาในแปลงเกษตร ตั้งแต่ออกยุทธการมาจุดความร้อ น(Hotspot) ยังเป็นศูนย์ 

แต่อย่างไรก็ดี อำเภอศรีสวัสดิ์ มีพื้นที่ปลูกข้าวโพดกว่า 39,000 ไร่ จึงทำให้เศษวัสดุจากการทำไร่ข้าวโพด อย่างเปลือกและซังข้าวโพด ยังตกค้างในไร่ จำนวนมาก และเกษตรกรก็มีความจำเป็นต้องกำจัดเปลือกและซังข้าวโพด ภายในเดือนหรือสองเดือนข้างหน้านี้เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกรอบถัดไป เนื่องจากหากเปลือกและซังข้าวโพดยังกองอยู่ที่ไร่ จะทำให้การไถดินเตรียมพื้นที่เพาะปลูก ไม่สามารถทำได้ ซึ่งต้องดำเนินการก่อนที่ฤดูฝนจะเข้ามา

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องหาวิธีการกำจัดเปลือกและซังข้าวโพดเหล่านี้ ซึ่งจากการลงพื้นที่และพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านหลายพื้นที่ เช่นพื้นที่ตำบลนาสวน ตำบลเกาะบุก ก็พบว่าปัจจุบันเกษตรกรบางกลุ่มมีวิธีกำจัดโดยไม่เผา ด้วยการนำโค-กระบือ มากินเปลือกและซังข้าวโพดในไร่

เกษตรกรบางรายมีการนำเครื่องจักรมาใช้ในการอัดเปลือกและซังข้าวโพดให้เป็นก้อนฟาง เพื่อใช้ในการเลี้ยงวัวและควายหรือนำไปขายสามารถสร้างรายได้เสริมเป็นอย่างดี ซึ่งตนคงจะได้นำไปเผยแพร่ พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อแจ้งลูกบ้านนำไปปรับใช้ หรืออาจมีวิธีการอื่นๆ อีก

หลังจากนี้ตนจะได้เรียกประชุมภาคส่วนทั้ง ภาคเกษตรกร ภาคราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น เกษตรอำเภอ ปศุสัตว์อำเภอ รวมถึงภาคเอกชน มาหารือร่วมกัน เพื่อหาวิธีการต่างๆ ที่จะช่วยเกษตรกรกำจัดเปลือกและซังข้าวโพดให้มากและไวที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระของเกษตรกรและจะเป็นแนวทางที่จะสามารถนำไปใช้ในปีถัดไป อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศที่สถานีตรวจวัด ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 55.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ส่วนดาวเทียมซูโอมิเอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ วีอาร์เอส (VIIRS) ตรวจจุดความร้อน (Hotspot) ย้อนหลังกลับไป 24 ชั่วโมง พบจำนวน 271 จุด พื้นที่รับผิดชอบ ป่าอนุรักษ์ 121 จุด ป่าสงวน 56 จุด เขต ส.ป.ก.10 จุด พื้นที่เกษตร 10 จุด ริมทางหลวง 1 จุด และอื่นๆ 73 จุด