ชมรมพิทักษ์คุณธรรมในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดกว่า 600 คน สวมชุดขาวชุมนุมประท้วงยื่นถอดถอน 14 กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดฯให้พ้นจากตำแหน่ง
วันนี้ (17 ก.พ.68) เวลา 09.00 น. นายพีระพงศ์ สุรเสน ประธานชมรมพิทักษ์คุณธรรมในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด พร้อมคณะ แกนนำสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จัดกิจกรรมชุมนุมในนามชมรมพิทักษ์คุณธรรมในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดประมาณ 600 คนจากสมาชิกสหกรณ์ฯทั้งหมดกว่า 18,000 คนใส่เสื้อขาวร่วมชุมนุมประท้วงยื่นถอดถอนกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัดทั้ง 14 คนให้พ้นจากตำแหน่งที่หน้าอาคารที่ทำการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดแห่งใหม่ ริมถนนบายพาส อาจสามารถ-ธวัชบุรี เพื่อรวบรามรายชื่อสมาชิกสหกรณ์ในการขอถอดถอนกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดฯทั้ง 14 คนให้พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากการดำเนินงานอันขาดคุณธรรม โดยไม่เล็งเห็นสิทธิประโยชน์ส่วนรวมของมวลสมาชิก อยู่ 2 ประเด็นหลักสำคัญ
นายพีระพงศ์ สุรเสน ประธานชมรมพิทักษ์คุณธรรมในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด กล่าวว่า ที่สมาชิกได้ออกมากันวันนี้เนื่องจากว่าสภาพของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด มีสภาพวิกฤตอย่างร้ายแรงไม่สามารถบริหารงานตามนโยบายได้ เป็นสภาพที่สมาชิกเดือดร้อนเนื่องจากกรรมการหลายท่านส่อแววไม่โปร่งใส สมาชิกได้ไปแจ้งความทั้งโรงพัก ทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อการตรวจสอบความถูกต้องให้มีความยุติธรรม
โดยชมรมได้จัดตั้งขึ้นด้วยการรวมตัวของมวลสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินงานอันขาดคุณธรรม โดยไม่เล็งเห็นสิทธิประโยชน์ส่วนรวมของมวลสมาชิกในการที่กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดฯ จำนวน 14 คน ได้ร่วมมือกันกระทำการทุกวิถีทางในการปิดกั้น ขัดขวางหรือสร้างความขัดแย้งต่อการดำเนินนโยบายของนายสุชาติ พุทธลา ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัด คนปัจจุบันในประเด็นสำคัญดังนี้
1.การสรรหาบริษัทประกันชีวิตและการลดเบี้ยประกันชีวิต โดยมิใช่อำนาจหน้าที่ของกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัด ทั้ง 14 คนแต่ฝ่ายเดียว ตามประกาศการสรรหาบริษัทประกันชีวิตมิได้อ้างอาศัยอำนาจตามข้อบังคับและระเบียบใดๆของสหกรณ์เลย เป็นเพียงการอ้างอิงมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ เท่านั้น
สมาพันธ์สมาคมผู้บริหารสถานศึกษาและครูจังหวัดร้อยเอ็ด ในนามตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ทั้งจังหวัด ได้ยื่นหนังสือคัดค้านและขอให้ยกเลิกประกาศการสรรหาบริษัทประกันชีวิต โดยเหตุที่เห็นว่าไม่มีความโปร่งใส ต้องการให้มีตัวแทนสมาชิกผู้ที่รับผิดชอบจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันรายปีเข้าไปมีส่วนร่วมเพราะมิได้ใช้จ่ายเงินของสหกรณ์แม้แต่บาทเดียว จึงไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของกรรมการฯ การสรรหามีการปิดกั้นโอกาสไม่ให้หลายๆ บริษัทเข้ามาแข่งขันในการลดเบี้ยประกันลง ซึ่งหากได้ดำเนินการตามหนังสือและแนวทางที่ได้นำเสนอไปจะได้เบี้ยประกันที่ถูกลงกว่าอย่างแน่นอน
แต่คณะกรรมการชุดที่ 62 ไม่ได้ดำเนินการใดๆ จึงได้เบี้ยประกันตามเงินกู้แสนละ 830 บาทเท่าเดิม 13 พฤศจิกายน 2567 สมาชิกสหกรณ์เกือบ 300 คนได้ร่วมการลงลายมือชื่อเพื่อขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญขอคัดค้านและขอให้ยกเลิกการสรรหาบริษัทประกันชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล นายสุชาติ พุทธลา ได้มีความพยายามที่จะหาทางติดต่อเพื่อเจรจากับทางบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตเพื่อจะได้ต่อรองเรื่องการลดเบี้ยประกันลงแต่ได้ถูกคัดค้านและต่อต้านจากกรรมการเก่าและใหม่ทั้ง 14 คน จนเป็นเหตุให้มีการฟ้องร้องต่อศาลเรียกเงินค่าเสียหาย 13 ล้านกว่าบาท นอกจากนั้นกรรมการฯทั้ง 14 คน ยังมีความพยายามที่จะร่วมกันประชุมมีมติต่อต้านคัดค้านการทำหน้าที่ของประธานด้วยเหตุแห่งคุณสมบัติที่ถูกฟ้องอันจะเกิดความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่จากการที่มีหนังสือไปถึงบริษัทประกันชีวิตเพียงเท่านั้น
จนในที่สุดความพยายามของกรรมการฯทั้ง 14 คนก็เป็นผลสำเร็จอ้างเหตุของการกระทำผิดตามข้อบังคับจึงมีมติให้นายสุชาติ พุทธลา พ้นจากสมาชิกเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ทำให้นายสุชาติ พุทธลา ต้องพ้นจากตำแหน่งประธานดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัด ไปด้วย
2.อีกหนึ่งนโยบายที่มุ่งมั่นตั้งใจของนายสุชาติ พุทธลา ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัด ที่เข้ามารับตำแหน่งเพียงหนึ่งเดือน ก็ดีมีการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 8 สตางค์ จากปัจจุบันร้อยละ 5.98 ลดลงเหลือร้อยละ 5.90 บาท โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ถึงแม้จะลดลงไม่มากแต่ก็เป็นความสำเร็จท่ามกลางความขัดแย้งต่อต้านและคัดค้าน ซึ่งมีความพยายามที่จะดำเนินการต่อไปในการเจรจากับแหล่งเงินกู้ต่างๆ ให้จงได้ อีกทั้งนโยบาย กู้เงินปันผลก็ได้จัดทำโครงการพร้อมที่จะนำเสนอรายละเอียดต่อที่ประชุมคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ในคราวต่อไป แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำเพื่อมวลสมาชิกเนื่องจากเหตุพ้นสภาพการเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเวลา 08.00 น.สมาชิกได้ทยอยเดินทางมารวมกันบริเวณหน้าอาคารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดด้วยการสวมเสื้อสีขาวทั้งหมด จากนั้นในเวลา 08.30 น. สมาชิกได้รวมตัวกันร่วมกันร้องเพลงชาติไทย สวดมนต์ไหว้พระ ร่วมร้องเพลงมาร์ชสหกรณ์ จากนั้นแกนนำได้เปิดเวทีปราศรัย เรียกร้องความเป็นธรรมและความสามัคคีของสมาชิก ในการต่อต้านการทุจริตที่เกิดขึ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดฯร่วมแสดงสัญลักษณ์แสดงพลังในการต่อต้านการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด
โดยชมรมพิทักษ์คุณธรรมในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด เห็นว่ากรรมการฯ ทั้ง 14 คน จงใจขัดขวางกลั่นแกล้ง ขาดคุณธรรม อีกทั้งยังไม่เล็งเห็นสิทธิประโยชน์ของสมาชิก จึงขอถอดถอนกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัดทั้ง 14 คน ให้พ้นจากตำแหน่งกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดฯ โดยเร็ว โดยได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการตรวบสอบบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดฯ ที่บริเวณหน้าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดฯ หลังจากนั้นได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการสหกรณ์ เพื่อความโปร่งใส และเป็นธรรม
นายพีระพงษ์ พนมรัมย์ ประธานผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนแล้วจะดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นและแจ้งให้คณะกรรมการทั้ง 14 คน รับทราบภายใน 5 วัน จากนั้นจะให้คณะกรรมการฯที่ถูกกล่าวหาชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 15 วัน ก่อนดำเนินการตามกระบวนการที่เหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ชุดที่ 63 ประกอบด้วยกรรมการทั้งหมด 15 คนโดยมีประธาน 1 คน และกรรมการอีก 14 คน ซึ่งกำลังถูกสมาชิกสหกรณ์ฯเรียกร้องให้ถอดถอน
ผู้สื่อข่าวรายเพิ่มเตอมว่า สถานการณ์ภายในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดยังคงตึงเครียดและต้องจับตาดูว่าคณะกรรมการที่ถูกกล่าวหาจะสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้หรือไม่ ขณะที่สมาชิกจำนวนมากยังคงยืนยันข้อเรียกร้องให้ดำเนินการถอดถอนกรรมการทั้ง 14 คนโดยเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี