ชาวนาพิจิตรสุดทนรวมตัวกว่า 1,000 คนบุกศาลากลางจังหวัดยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาล "อุ๊งอิ๊งค์" 3 ข้อเรียกร้องให้ช่วยเหลือราคาข้าวที่ตกต่ำ และการเยียวยาไม่เผาฟาง

วันที่ 17 ก.พ.68 ที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร กลุ่มเครือข่ายชาวนาจังหวัดพิจิตรนำโดยนายประกาศิต แจ่มจำรัส, นายมนูญ มณีโชติ และ นายณรงค์ อิ่มฤทัย พร้อมเครือข่ายชาวนาจังหวัดพิจิตรกว่า 1,000 คนได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือผ่านนางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ส่งถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำรัฐบาล ให้ช่วยชาวนาดังนี้ 1.ขอให้รัฐบาลพยุงราคาข้าว ความชื้น 25 เปอรเซ็นต์ อยู่ที่ 10,000 บาท ปัจจุบันราคา 5-6,000 บาท 2.ให้รัฐบาลควบคุมการผลิตแบบยั่งยืน ด้วยการควบคุมต้นทุน ปุ๋ย ยา น้ำมัน และ 3.ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรที่ให้ความร่วมมือในการไม่เผาตอซังข้าว ไร่ละ 1,000 บาท โดยอาจจำกัดจำนวนไร่ได้

โดยนายมนูญ มณีโชติ ตัวแทนชาวนา เปิดเผยว่า ในขณะนี้ชาวนาจังหวัดพิจิตรกำลังได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาข้าวที่ถูกลงสวนทางกับต้นทุนที่แพงขึ้นจึงมาเรียกร้อง 3 ข้อคือ 1.ขอให้รัฐบาลพยุงราคาข้าวความชื้น 25 เปอรเซ็นต์ อยู่ที่ 10,000 บาท ปัจจุบันราคา 5-6000 บาท 2.ให้รัฐบาลควบคุมการผลิตแบบยั่งยืน ด้วยการควบคุมต้นทุน ปุ๋ย ยา น้ำมัน และ 3.ขอให้รัฐบาล ช่วยเหลือเกษตรกร ที่ให้ความร่วมมือในการไม่เผาตอซังข้าว ไร่ละ 1,000 บาท โดยอาจจำกัดจำนวนไร่ได้และหลังจากนี้ก็จะทำการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคอยติดตามผลทุก 7 วันและหากไม่ได้รับคำตอบชาวนาก็จะขอมติกันเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวกับชาวนาว่า ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนด้วยความสงบ สุภาพ โดยหลังจากนี้จะเชิญตัวแทนชาวนาไปปรึกษาหารือประชุมรวมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยทางจังหวัดพิจิตรยินดีช่วยเหลือชาวนาตามศักยภาพที่จังหวัดมีอยู่และสามารถทำได้และหากเป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาล ทางจังหวัดก็ยินดีที่จะส่งเรื่องต่อไปยังรัฐบาล ซึ่งเป็นกำหนดนโยบายในส่วนรวมโดยที่ชาวนา ไม่ต้องลำบากเดินทางไปเอง

ขณะที่นายจักรกฤต บรรเจิดกิจ ผู้อำนวยการวิทชาลัยชาวนาพิจิตร ระบุว่า รัฐบาลควรต้องแก้ปัญหา โดยเฉพาะเรื่องปุ๋ยยาที่ไม่เก็บภาษี ควรจะเก็บแล้วนำมาเป็นกองทุนช่วยเหลือชาวนา และควรสนับสนุนให้มีการพัฒนาพันธ์ข้าวให้ได้มาตรฐาน รวมถึงส่งเสริมการปลูกข้าวพื้นนุ่ม เช่นข้าวหอมมะลิ ที่ชาวนาปลูกน้อยลงเนื่องจากได้ผลผลิตต่ำและราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับข้าวสายพันธ์ต่างประเทศ 

โดยหลังจากที่ยื่นหนังสือเสร็จกลุ่มเครือข่ายชาวนาได้เดินทางกลับโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น โดยระบุว่าหลังจากนี้จะรอฟังความคืบหน้า โดยหากพ้น 7 วันผ่านไปหากรัฐไม่มีมาตรการช่วยเหลือ ทางกลุ่มจะมีมาตรการต่อไปที่มากกว่าการยื่นหนังสือ