หนุ่มช่างเชื่อมชาวพม่าถูกลูกพี่สัญชาติเดียวกันด่าทอทำงานไม่ได้เรื่องแถมถูกตีด้วยขวดจนศีรษะแตกเลือดอาบ ชักมีดปลายแหลมประจำกายแทงสวนก่อนลูกพี่วิ่งหนีไปเสียชีวิตที่ห้องเช่า ส่วนผู้ก่อเหตุพยายามหลบหนีแต่ไปไม่รอดโดนรวบคาวัด
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (17 ก.พ.68) พ.ต.ต.สำอางค์ ศุภพัฒน์อานันท์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองกาญจนบุรีว่า เกิดเหตุคนใช้อาวุธมีดทำร้ายกันแรงมีผู้เสียชีวิต 1 ราย หลังเกิดเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป เหตุเกิดที่ห้องแถวท้องที่บ้านท่าน้ำตื้น หมู่ 1 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.วศิน พลายศิริ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.มารุต ฉัตรทัณฑ์ สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.สุนันท์ เรืองเที่ยง สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา รวมถึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ และเจ้าหน้าที่ อส.อ.เมืองกาญจนบุรี
ไปถึงพบสถานที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าชั้นเดียวสร้างติดต่อกันประมาณ 2 ห้อง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายสภาพนอนหงายอยู่กับพื้นภายในห้องเช่า สภาพศพถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าที่หน้าท้องซ้าย 1 แผล มีเลือดไหลท่วมตัว การแต่งกายนุ่งกางเกงวอร์มขายาว สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า ใส่รองเท้าผ้าใบ ส่วนที่มือขวาพบกำไม้คมแฝกอยู่ 1 อัน
ส่วนคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเบื้องต้นทราบว่าหลบหนีเข้าไปอยู่ภายในห้องเช่า เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดล้อมพร้อมตะโกนเรียกให้ออกมามอบตัว แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ เจ้าหน้าที่คาดในเบื้องต้นว่าคนร้ายอาจจะเกิดความเครียดแล้วมีอาการคลุ้มคลั่งขึ้นจึงจัดเตรียมอุปกรณ์มีทั้งโล่ ปืนไฟฟ้าและเหล็กง่ามเอาไว้
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเปิดประตูเข้าไปได้ปรากฏว่าไม่พบและมาทราบว่าคนร้ายได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันออกค้นหาไปทุกซอกทุกมุม ต่อมาได้รับแจ้งว่าพบคนร้ายรายดังกล่าวอยู่ภายในวัดแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้ และพบว่าที่ศรีษะมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์มีเลือดไหลท่วมตัว เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์จึงช่วยทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ซึ่งผู้ต้องหายังพกมีดปลายแหลมบริเวณด้ามจับทำด้วยเหล็กคล้ายสนับมือเปื้อนเลือด 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงคุมตัวผู้ต้องหามาที่บ้านเช่าซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ทราบชื่อคือนาย วิน โทน ไม่มีนามสกุล อายุ 37 ปี ชาวพม่า ส่วนผู้เสียชีวิตคือนายซอ ไม่มีนามสกุล อายุ 48 ปี ชาวพม่าด้วยกัน หลังจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นแล้วเสร็จจึงนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้นายวิน โทน ผู้ก่อเหตุทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ต่อมานายซอ ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นลูกพี่ได้โทรศัพท์ติดต่อให้มาช่วยทำงานเป็นช่างอ๊อกเหล็กที่กาญจนบุรี นาย วิน โทน จึงตัดสินใจมาเพราะงานไม่ค่อยมีให้ทำ
ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายวิน โทน กำลังนั่งกินข้าวอยู่ในห้องเช่า นายซอ ได้เข้ามาหาพร้อมกับต่อว่าว่าทำงานไม่ได้เรื่องและบอกให้ตนรีบกลับไปทำงาน ตนจึงบอกไปว่าขอกินข้าวให้อิ่มก่อน แต่นายซอ ไม่ยอม จึงเกิดการโต้เถียงกัน
จากนั้นนายซอ ได้คว้าขวดตีเข้าที่ศีรษะตนอย่างแรงจนแตกเลือดอาบ ด้วยความโมโห ตนจึงชักเอามีดปลายแหลมที่พกประจำกายออกมาแล้วแทงเข้าไปที่หน้าท้องของนายซอ 1 ครั้ง จากนั้นนายซอ ได้วิ่งออกจากห้องของตน แล้วไปนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องเช่าของตนเองที่เช่าอาศัยอยู่กับภรรยา หลังก่อเหตุตนไม่คิดจะหลบหนีไปไหน แต่ด้วยความตกใจจึงเดินไปหลบอยู่ที่วัด เพื่อตั้งสติและในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ติดตามมาจับกุมตัวเอาไว้ได้
หลังผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงทำแผนประกอบคำรับสารภาพจากนั้นจึงนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ก่อนที่จะส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี