รองแม่ทัพภาคที่ 3 ลงพื้นที่จังหวัดน่าน ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่จังหวัดน่าน

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองแม่ทัพภาคที่ 3 รอง ผอ.ศอ.ปกป. ภาค 3 สน. พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อร่วมประชุมรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่จังหวัดน่าน ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อให้การดำเนินการด้านการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล ลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ โดยมีนายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ปัญหาไฟป่า หมอกควัน เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและร่วมกันแก้ไข ป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจังหวัดได้มีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ภาคส่วนต่างๆ เข้ามาร่วมกันทำงาน รวมทั้งจิตอาสา ซึ่งปัจจัยของความสำเร็จอยู่ที่การผนึกกำลัง การสื่อสารเชิงรุก การปฏิบัติ และสร้างการมีส่วนร่วม โดยต้องการให้เน้นการป้องกันลดปัญหาต้นเหตุในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เกิดปัญหาขึ้นบ่อยครั้ง มีการเสนอทางเลือกให้กับหมู่บ้าน ชุมชน ในการกำจัดเศษวัสดุทางการเกษตร ขอให้ทบทวนแผนเดิมว่ามีข้อบกพร่องอะไร แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขในการดำเนินการในปีนี้ และนำแผนระดับจังหวัดส่งต่อไปยังอำเภอ ตำบล ชุมชนต่อไป สร้างการตระหนักรู้ให้กับประชาชน อีกทั้งต้องให้ความรู้ และชักชวนประชาชนในชุมชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา เพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน ทำงานเชิงรุก และเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม บรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นให้กับประชาชนให้ได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกภาคส่วนของจังหวัดน่าน ได้บูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ในพื้นที่ อย่างเข้มข้น เพื่อลดผลกระทบในทุกด้าน นอกจากนี้ จังหวัดน่านยังได้นำเสนอการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวัง ควบคุมไฟป่า และหมอกควัน โดยทางจังหวัด ได้มีการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายช่วยกันป้องกันปัญหา พร้อมขอให้ประชาชนงดเผาวัชพืชในที่โล่งแจ้ง และร่วมกันดูแลป่า เพื่อลดปัญหาหมอกควัน โดยขอให้ทุกคน ทุกฝ่าย ร่วมมือกัน งดเผาในที่โล่งแจ้ง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย โดยจังหวัดน่านได้มีมาตรการยกระดับป้องกันและแกไขปัญหาของจังหวัด โดยให้เข้มงวดและดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดกฎหมายในกรณีเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิด ออกประกาศปิดพื้นที่ป่า ให้อำเภอ/อปท.ใช้มาตรการห้ามเข้าพื้นที่ป่า และจัดให้มีเวรยามตรวจตราเฝ้าระวัง ให้อำเภอติดตามสถานการณ์ทุกวันจันทร์ โดยบูรณาการความร่วมมือแผนงานโครงการ/งบ/กำลังคน โดยยึดเขตพื้นที่การปกครองเป็นหลักและใช้กลไกระบบสั่งการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) รวมทั้งกำชับผู้ประกอบการไม่ให้กำจัดซังและเปลือกข้าวโพดด้วยวิธีการเผา และเน้นย้ำการประชาสัมพันธ์ในทุกรูปแบบอีกด้วย