‘แรงงานเถื่อน’ทะลักชายแดน‘กาญจนบุรี’ ไล่จับทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งชาย-หญิง อายุเฉลี่ยล้วนต้องถูกบังคับไปเป็นทหาร

เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 18 ก.พ.68 พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี , พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี ว่ามีผู้พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณชายป่าซอยสามแยกซองกาเลีย หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี หลังรับรายงานจึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ประดิษฐ์ แร่เพชร สว.ธร.ฯ รรท.สวป.สภ.สังขละบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ , เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ (ปะ ฉะ ดะ) , เจ้าหน้าที่สายตรวจน้ำเกิ๊ก , เจ้าหน้าที่จราจร และเจ้าหน้าที่ชุดส่งกำลังบำรุง นำกำลังไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่จริง จึงปิดล้อมพร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อกลุ่มแรงงานเห็นเจ้าหน้าที่บางคนพยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้เป็นชายทั้งหมด 36 คน อายุเฉลี่ย 14-40 ปี ผู้ต้องหาทั้ง 36 คนไม่มีเอกสารการได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทยมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ อีกทั้งสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ จึงนำตัวทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สังขละบุรี

จากการสอบถามผ่านล่าม กลุ่มผู้ต้องหา ให้การตรงกันว่า พวกตนหลบหนีเข้ามาในไทยด้วยการใช้เส้นทางตามชายป่าซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติ โดยมีนายหน้าชาวเมียนมาด้วยกันนำพาเดินลัดเลาะด่านตรวจ แล้วมานั่งพักรอคนขับรถมารับเพื่อไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย ระหว่างรอมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน หลังจากกลุ่มผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522 ฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”

พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เวลา 15.00 น.วันที่ 17 ก.พ.68 ตนพร้อมด้วย พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.134 , ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี และ ตม.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณชายป่าเกาะหิน ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ท้องที่หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังไปตรวจสอบ พบกลุ่มแรงงานเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่จริง

เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดล้อม พร้อมแสดงตัวและส่งสัญญาณเข้าจับกุม เมื่อแรงงานกลุ่มดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งไล่ติดตามเพื่อจับกุมกันอย่างทุลักทุเล และจับกุมแรงงานทั้งหมดในกลุ่มนี้เอาไว้ได้ 23 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 9 คน อายุเฉลี่ย 17-45 ปี ทั้งหมดไม่มีเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สังขละบุรี

จากการสอบสวนผ่านล่าม กลุ่มผู้ต้องหาให้การว่า ใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนฝั่ง อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยมีผู้ชำนาญเส้นทางเป็นชาวเมียนมานำพาหลบหนีเข้ามา จากนั้นขึ้นรถยนต์มาลงเรือในพื้นที่ อ.สังขละบุรี แล้วมาขึ้นฝั่งบริเวณเกาะหิน ระหว่างรอนายหน้ามารับไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทยก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน หลังจากกลุ่มผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรีดำเนินคดีตามกฎมาย กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จะสังเกตได้ว่าการจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาได้ทั้ง 2 คดีนั้น อายุของแต่ละคนล้วนอยู่ในเกณฑ์ที่รัฐบาลทหารเมียนมา บังคับให้ไปฝึกจับอาวุธเพื่อไปเป็นทหารต่อสู่กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทั้งสิ้น เชื่อว่าจะมีชาวเมียนมาหลบหนีจากการถูกบังคับให้ไปเป็นทหาร เข้ามาตามชายแดนไทยอีกเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน