คุณภาพอากาศกาญจน์หนักขึ้น เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เตือน เด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง อธิบดีกรมอุทยานฯประกาศพื้นที่ใดที่เกิดไฟไหม้ป่ามากให้ออกประกาศห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปเก็บหาของป่าในพื้นที่ป่าโดยเด็ดขาดตลอดทั้งปี หากผู้ใดฝ่าฝืนจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
วันนี้ (18 ก.พ.68) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรีในเวลา 08.00 น.โดยสถานีตรวจวัด ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 67.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ข้อแนะนำ เด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ และอ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์ ส่วนประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีความจำเป็นเช่น หน้ากากอนามัย เป็นต้น
ขณะที่ดาวเทียม ซูโอมิเอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ วีอาร์เอส (VIIRS) ตรวจจุดความร้อน ((Hotspot)ย้อนหลังกลับไป 24 ชั่วโมง พบจำนวน 247 จุด พื้นที่รับผิดชอบ ป่าอนุรักษ์ 128 จุด ป่าสงวน 48 จุด เขต สปก.5 จุด พื้นที่เกษตร 10 จุด ริมทางหลวง 0 จุด และอื่นๆ 56 จุด
ขณะเดียวกัน เพจ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประชาสัมพันธ์ว่า อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งหลังฤดูไฟป่า ห้ามอนุญาตให้เก็บหาของป่าทุกเขตป่าอนุรักษ์ที่ไฟไหม้มาก ยกเว้นรายที่ให้ความร่วมมือป้องกันไฟป่า/ฝ่าฝืนจับดำเนินคดีหนัก
โดยเมื่อวันที่ 17 ก.พ.68 ที่ผ่านมา นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์หลายแห่งมีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างหนัก รวมถึงสร้างปัญหาฝุ่นควันที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรทางธรรมชาติในวงกว้าง ทั้งนี้ ไฟป่าส่วนใหญ่ในประเทศไทยมีสาเหตุหลักมาจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งที่ผ่านมามีการจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าโดยมีจุดประสงค์หลัก คือ เพื่อเก็บหาของป่า เช่น เห็ด ผักหวาน และการล่าสัตว์ เป็นต้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลเสียต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง ไฟป่าทำลายแหล่งต้นน้ำลำธาร ทำลายต้นไม้ สัตว์ป่า และแมลงที่เป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศ
นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ทำให้เกิดปัญหาหมอกควัน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการให้ สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า รวบรวมสถิติพื้นที่เกิดไฟป่า โดยพื้นที่ใดที่เกิดไฟไหม้ป่ามากให้ออกประกาศห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปเก็บหาของป่าในพื้นที่ป่าโดยเด็ดขาดตลอดทั้งปี หากผู้ใดฝ่าฝืนเข้าไปเก็บหาของป่าในพื้นที่อนุรักษ์โดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ยกเว้นเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเป็นรายกรณีเท่านั้น โดยจะต้องเป็นผู้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งและมีส่วนร่วมในการช่วยงานดับไฟป่าในพื้นที่ และจะต้องได้รับการพิจารณาและอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นรายบุคคลไป
นอกจากนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะได้บูรณาการร่วมกับจังหวัดและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เร่งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบข้อมูลและแนวทางการปฏิบัติดังกล่าวและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะการแก้ไขปัญหาไฟป่าต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างจริงจังเพื่อลดปัญหาและผลกระทบจากไฟป่าและรักษาผืนป่าของประเทศไทยให้คงอยู่สืบต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี