มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เจ้าภาพจัดประชุมใหญ่การศึกษาไทย-ยูนนานครั้งที่ 4 ฉลอง 50 ปีสัมพันธ์ทางการทูต
วันที่ 18 ก.พ.2568 ที่ห้องประชุมมอกคำหลวง อาคาร M-Square มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือด้านการศึกษาไทย-ยูนนาน ครั้งที่ 4 ภายใต้หัวข้อ "The Way Forward: Shaping the Future Thai-Yunnan Education" ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 150 คน ประกอบด้วยผู้บริหารและคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยและมณฑลยูนนาน ผู้แทนจากกระทรวงการอุดมศึกษาฯ กรมการศึกษามณฑลยูนนาน และสื่อมวลชนโดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผศ.ดร.มัชฌิมา นราดิศรอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง Mr. Tang Jiahua เลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคุนหมิง ดร.ลักษมณ สมานสินธุ์ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ อว. ร่วมกันทำพิธีเปิดการประชุมฯ
ผศ.ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเชียงรายถือเป็นประตูสู่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่มีความสัมพันธ์กับจีนมาอย่างยาวนาน แม้ความสัมพันธ์ทางการทูตจะครบรอบ 50 ปีในปีนี้ ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเชียงรายและยูนนานนั้นยังคงลึกซึ้งยิ่งกว่าคำว่าพี่น้องโดยตลอด 26 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนในการก่อตั้งสถาบันขงจื่อและศูนย์ภาษาวัฒนธรรมจีนสิรินธร พร้อมทั้งมีความร่วมมือด้านการวิจัยกับสถาบันชั้นนำของยูนนานในด้านเห็ดรา สมุนไพร และชา-กาแฟ จนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
ด้านนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายและมณฑลยูนนานมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในฐานะ "เมืองพี่เมืองน้อง" โดยร่วมมือกันในหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม โดยเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การประชุมครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่นักวิชาการจากทั้งสองประเทศจะได้ร่วมกันสร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชนทั้งไทยและจีน
Mr. Tang Jiahua เลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคุนหมิง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือที่ยั่งยืน การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา วัฒนธรรม และการวิจัย รวมถึงการจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วมระดับนานาชาติ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
ดร.ลักษมณ สมานสินธุ์ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ อว. กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นของไทยในการร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการศึกษาอย่างยั่งยืน
สำหรับการประชุมได้แบ่งกลุ่มย่อยเพื่อหารือใน 5 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ นโยบายและทิศทางความร่วมมือ การพัฒนาสีเขียว การแพทย์และสาธารณสุข วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และภาษาและวัฒนธรรม
นอกจากนี้ยังมีการจัดปาฐกถาพิเศษโดย ศาสตราจารย์ ดร.วันชัย ศิริชนะ ประธานสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในหัวข้อ การพัฒนาครูในบริบทที่เปลี่ยนไป” และนายหยินเสียงหยาง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน มหาวิทยาลัยการแพทย์คุนหมิง โดยจัดให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้เยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมสมุนไพร ศูนย์เครื่องสำอาง SMEs โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และศูนย์ภาษาจีนสิรินธร
ทั้งนี้ยังมีการเสวนาพิเศษในหัวข้อ "The Value of Thai-Chinese Education Cooperation in Advancing Human Capacity Development and Shared Growth" โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งผู้บริหารมหาวิทยาลัย ภาคธุรกิจ และสมาคมนักศึกษาจีนในประเทศไทย ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการเติบโตร่วมกัน
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือทางวิชาการระหว่างไทยและจีนมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา การพัฒนาหลักสูตร และการวิจัยร่วมกัน และการประชุมครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ด้านการศึกษาระหว่างไทยและจีน โดยเฉพาะในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต พร้อมทั้งเป็นการวางรากฐานสำหรับความร่วมมือที่ยั่งยืนในอนาคต เพื่อพัฒนาการศึกษาและคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี