‘ตำรวจไซเบอร์’ทลาย‘เว็บพนัน’รายยักษ์กลางกรุง เงินหมุนเวียนปีละ 1.1 หมื่นล้าน พร้อมขยายผลรวบแอดมินอีกเว็บ
18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ “ตำรวจไซเบอร์” พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. , พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. , พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการทลายเว็บพนันรายยักษ์กลางกรุง เงินหมุนเวียนปีละกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท พร้อมขยายผลรวบแอดมินอีกเว็บ
ผบช.สอท. กล่าวว่า ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส. ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด จับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตนได้สังการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนปราบปรามเว็บไซต์พนันออนไลน์ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนนำมาสู่การตรวจค้นจับกุมและขยายผลเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 2 เครือข่าย
ปฏิบัติการที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 สืบสวนเครือข่ายพนันออนไลน์รายใหญ่ เว็บไซต์หนึ่ง โดยพบว่ามีสมาชิกผู้เล่นกว่า 18,000 คน มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 11,520 ล้านบาทต่อปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้นับ 10 ราย
ต่อมาเจ้าหน้าได้นำกำลังพร้อมหมายค้นจากศาลอาญาพระโขนง เข้าตรวจค้นห้องพัก ภายในชั้น 17 ของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์-หัวหมาก แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. พร้อมจับกุมผู้จัดการด้านการเงินและผู้ทำหน้าที่กดเงินสดได้ 2 ราย ได้แก่ นายพงษ์ณพัฒน (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และนายธนบดี (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พร้อมตามจับกุมบัญชีม้าได้อีก 3 ราย ยึดของกลางเงินสด 3,956,500 บาท สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 44 เล่ม บัตรกดเงินสด 54 ใบโทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง คอมพิวเตอร์ Notebook 2 เครื่อง เครื่องนับเงินสด 1 เครื่อง รถยนต์ 3 คัน ประกอบด้วยรถยนต์ยี่ห้อ Toyota Alphard สีดำ รถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อ Toyota Revo Prerunner สีดำ และรถยนต์ยี่ห้อ Isuzu mu-x สีขาว รวมของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท
ปฏิบัติการที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์เว็บไซต์หนึ่ง ซึ่งมียอดเงิน หมุนเวียนแต่ละบัญชีกว่า 500 ล้านบาทต่อปี โดยสามารถจับกุมผู้ทำหน้าที่เบิกเงินสดและนำเงินไปฟอกเข้าบัญชีอื่นได้ 2 ราย พร้อมตรวจยึดของการเงินสด 939,000 บาท สร้อยคอทองคำและทองคำแท่งมูลค่าประมาณ 90,000 บาท สมุดบัญชีธนาคารและบัตร ATM พร้อมของกลางอื่นรวม 7 รายการ
ต่อมาเจ้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนขยายผลเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมขออนุมัติหมายจับศาลอาญา เข้าทำการจับกุมนายกฤษฎา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นแอดมินและดูแลบัญชีของเว็บไซต์พนันดังกล่าว โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าห้องพักคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว นำตัวเข้าตรวจค้นที่ห้องพัก พร้อมตรวจยึดของกลางสมุดบัญชีธนาคาร 56 เล่ม บัตร ATM 40 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ชุดคอมพิวเตอร์ 1 ชุด
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เข้ามาทำงานกับเว็บพนันนานประมาณ 5-6 ปีเศษ โดยช่วงแรกต้อง เดินทางไปทำงานที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา จากนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 จึงได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่ในช่วงหลังได้รับอนุญาตให้กลับมาทำงานในประเทศไทย โดยตนเองนั้น มีหน้าที่คอยบริหารด้านการเงินพร้อมทั้งจัดหาบัญชีม้าให้เว็บพนันดังกล่าว เมื่อมียอดเงินจากการเล่นพนันโอนเข้ามาที่บัญชีก็จะถูกโอนต่อไปเป็นยอดย่อยๆ ไปยังบัญชีม้าอื่นที่เตรียมไว้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่และเพิ่มความยากต่อการสืบสวนจับกุม โดยได้รับค่าจ้างจากเว็บพนัน ประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน และหากในเดือนใดตนจัดหาบัญชีม้ามาได้ ก็จะได้รับเงินเพิ่มอีก
นอกจากนี้เมื่อผู้เล่นพนันเติมเงินเครดิตเข้ามาจำนวนเงินมาก ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น ทางผู้บริหารเว็บพนันจะแจ้งให้ตนกับพวกอีกประมาณ 4-5 คน เข้าไปปั่นสล็อตแข่งกับลูกค้าทันที ซึ่งจะทำให้โอกาส ที่ลูกค้าจะถูกรางวัล หรือ “สล็อตแตก”แทบไม่มีหรือเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลเว็บพนันออนไลน์ทั้ง 2 เครือข่าย พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงไปยังผู้รับผลประโยชน์ เพื่อจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการที่ยังหลบหนีและตรวจยึดทรัพย์สินที่ ได้มาจากการกระทำความผิด เพื่อนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี