กอ.รมน.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เร่งสร้างการรับรู้ในการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย และการประพฤติที่ไม่ขัดต่อวัฒนธรรมของชุมชน
วันนี้ (18 ก.พ.68) พันเอกหญิงนุชระวี แจ่มจำรัส รอง โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า จากกรณีที่มีประชาชนร้องเรียน และมีผู้โพสต์บนสื่อออนไลน์ถึงประเด็นว่ามีประชาชนใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีการระบุว่า ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวมีการปักหลักอาศัยอยู่ในพื้นที่ มีการเช่าร้านอาหาร สร้างโบสถ์ และมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย รวมถึงทำกิจกรรมรบกวน ส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนให้คนในพื้นที่
กอ.รมน. จังหวัดแม่ฮ่องสอน นำโดย นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มอบหมายให้ พ.อ.ภูมิรัชต์ ดุษฎี รอง ผอ.รมน.จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ฝ่ายทหาร) เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีการร้องเรียนเข้ามาเมื่อเดือน ม.ค.68 ซึ่งเมื่อได้รับการร้องเรียน กอ.รมน.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตำรวจ สภ.ปาย ตร.ท่องเที่ยว ตร.ตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบโดยทันที และมีการดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่องทั้งในการตรวจสอบการลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างซาบัด ตรวจสถานประกอบการ และขอความร่วมมือในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ประพฤติตนขัดต่อธรรมประเพณีของคนท้องถิ่นมา
ทั้งนี้ กอ.รมน. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว ขอเรียนว่าจำนวนของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลใน อ.ปาย ที่ถูกเผยแพร่ว่ามียอดสูงกว่า 30,000 รายนั้น เป็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีของปี 67 ปกติกลุ่มของชาวอิสราเอลจะเข้าและออกราวเดือนละ 3,000 ราย โดยในเดือนมกราคม 68 นี้มีตัวเลขนักท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 4,000 คน ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น และส่วนมากก็จะพบว่าเป็นกลุ่มคนที่มาเที่ยวซ้ำหรือพักอยู่เป็นเวลานานๆ ตามระยะเวลาที่กำหนดในวีซ่า
สำหรับในเรื่องการสร้างโบสถ์ กอ.รมน. ได้มีการประสาน ตร.ตม.จ.แม่ฮ่องสอน, ตร.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.2 และ ตร.สภ.ปายบูรณาการตรวจสอบสอบสถานที่ก่อสร้างซาบัด (โบสถ์ศาสนายูดาห์(ยิว)) ณ บ้านเมืองพร้าว ต.เวียงใต้ อ.ปาย พบว่ามีการขออนุญาตการก่อสร้างที่ถูกต้อง และดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบข้อบังคับ ทั้งนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบอยู่เป็นประจำ พร้อมกับพูดคุยกับผู้นำทางศาสนาในการกำชับให้ชาวอิสราเอลที่เข้ามาพักใน อ.ปาย เกี่ยวกับการประพฤติตนไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่นักท่องเที่ยวและชาวบ้าน ซึ่งการก่อสร้างซาบัดไม่ได้มีที่ อ.ปาย เพียงแห่งเดียวที่ ในแต่ละจังหวัดมีการก่อสร้างเช่นเดียวกันซึ่งต้องทำการขออนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานประกอบศาสนกิจของชาวอิสราเอล โดยจะเริ่มตั้งแต่เช้าวันศุกร์ไปจนถึงค่ำของวันเสาร์ มีการสวดมนต์รับประทานอาหารของชนอิสราเอล ซึ่งในการสวดมนต์จะมีการเล่นกีตาร์คลอไปด้วย ไม่ได้เป็นแหล่งมั่วสุมหรือจัดปาตี้ร์ตามที่มีการกล่าวถึง
ส่วนประเด็นในการตั้งดินแดนพันธะสัญญาในการตั้งถิ่นฐานใน อ.ปาย ส่วนงานความมั่นคงได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อมูลพบว่าไม่มีสิ่งบอกเหตุ เพราะนักท่องเที่ยวอยู่กระจัดกระจายและไม่ได้มีตัวเลขที่สูงมากอย่างมีนัยสำคัญ โดยประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทำการติดตามและตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา
ในส่วนประเด็นที่มีการร้องเรียนเรื่องการส่งเสียงดัง การแต่งกายไม่เรียบร้อย หรือทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ในบริเวณชุมชนหรือพื้นที่สาธารณะ ฝ่ายปกครองและตำรวจได้ออกมาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยทางจ.แม่ฮ่องสอน ได้มีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวถึงวัฒนธรรมประเพณีของคนในท้องถิ่น การอยู่ร่วมกัน ในขณะเดียวกันจะเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและบังคับใช้กฎหมายควบคู่ไปด้วย โดย กอ.รมน.จังหวัดแม่ฮ่องสอนจะประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
โดยเมื่อ 10 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน/ผอ.รมน.จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.ปาย รวมทั้งจัดระเบียบ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยว ในพื้นที่โดยมี ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน, รอง ผอ.รมน.จังหวัด (ฝ่ายทหาร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฯ เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุม มีประเด็นการหารือที่สำคัญ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการใน 5 ประเด็น ประกอบด้วย
1) การตรวจตราประกอบอาชีพของชาวต่างชาติให้ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายโดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่แม่ฮ่องสอน เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบดำเนินการ
2) การควบคุมการสูบของชาวต่างชาติให้เหมาะสม ไม่ให้สูบในที่สาธารณะ เนื่องจากเป็นมลพิษทางกลิ่นและสร้างความเดือดร้อนแก่คนในพื้นที่ โดยมอบหมายให้สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบดำเนินการ
3) การสร้างความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในการปฏิบัติตามกฎจราจร รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับร้านประกอบกิจรถเช่าในการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับกฎจราจรให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยมอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ
4) การเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการแต่งกายที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะการแต่งกายในที่สาธารณะหลังจากร่วมกิจกรรมการล่องห่วงยาง โดยมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานแม่ฮ่องสอน เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ
5) ขณะที่สถานบริการและสถานประกอบการที่จำหน่ายสุรา ต้องดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยมอบหมายให้ที่ทำการปกครอง อ.ปาย เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม กอ.รมน. จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวัง และตรวจสอบ ติดตามการแก้ไขปัญหาและการจัดระเบียบการท่องเที่ยวในพื้นที่ พร้อมให้ประชาสัมพันธ์ ให้คำแนะนำแก่สถานประกอบการ และนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานในพื้นที่ได้บูรณาการทั้งฝ่ายปกครอง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตำรวจภูธร และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันออกตรวจตราความเรียบร้อยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมายที่ถูกต้อง ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือได้รับความเดือนร้อนจากกรณีดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่ กอ.รมน.จังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร : 053-611538
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี