สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับ สถาบันเทคโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีและรังสี ภายในงาน FTI EXPO 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์และรังสี ศึกษาวิจัย รวมถึงการให้บริการแก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมทุกระดับทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) กล่าวว่า ในนามสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อร่วมกันส่งเสริม สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์และรังสีในด้านการศึกษาวิจัยและการให้บริการแก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมทุกระดับทั่วประเทศ สทน.มีความพร้อมทั้งบุคลากรที่เชี่ยวชาญ มีองค์ความรู้เครื่องมือและอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยและการบริการ เมื่อได้รับการสนับสนุนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและเกิดความร่วมมือต่างๆ จะยิ่งส่งผลให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมไทย สามารถเข้าถึงผลงานวิจัยและนวัตกรรม รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์และรังสี และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ เพื่อเปิดประสบการณ์สู่การสร้างโอกาส ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ ตลอดจนสร้างมูลค่าและคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับขอบเขตความร่วมมือครั้งนี้ สทน.และ ส.อ.ท. จะร่วมมือในการส่งเสริมงานวิจัยด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์และรังสีทั้งด้านอุตสาหกรรม เกษตร อาหาร สมุนไพร สุขภาพ และอื่นๆ ร่วมกันโดย ส.อ.ท. เป็นผู้รวบรวมประเด็นปัญหาหรือความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่จะปรับปรุงพัฒนาด้วยเทคโนโลยีนิวเคลียร์และรังสี และ สทน. เป็นผู้นำไปวิจัยตามกระบวนการวิจัยจนบรรลุผลสำเร็จ และส่งมอบผลงานวิจัยพร้อมทั้งถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ภาคอุตสาหกรรม
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การยกระดับอุตสาหกรรมไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เติบโตอย่างยั่งยืนนั้น การต่อยอดและการประยุกต์ ใช้ผลงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้ากับกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพและคุณภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งยังช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนการผลิต ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์ปัจจุบันและเท่าทันต่อความต้องการของผู้บริโภคและรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป สอดรับกับนโยบาย ONE FTI ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทยเพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม ผ่านแนวทาง 4 Go ในส่วนของ Go Innovation ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมไทยหลุดพ้นจากกับดักของเศรษฐกิจ จากเดิมทำมากได้น้อย ให้เปลี่ยนเป็นทำน้อยได้มากด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี