จเรตำรวจแห่งชาติมอบนโยบายงานจเรตำรวจ เน้นย้ำชื่นชมตำรวจทำดี ลงโทษตำรวจนอกรีต ทำผิด ลงโทษ ไม่มีซูเอี๋ย เพื่อสร้างวัฒนธรรม culture of lawfulness เปิดอบรม‘ไซเบอร์’ต่อกร‘แก๊งคอลเซ็นตอร์’ อาชญากรรมในรูปแบบใหม่
19 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยว่า วานนี้ (18 ก.พ.68) ตรได้เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายงานจเรตำรวจ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ และ พล.ต.ท.ธนพล ศรีโสภา รองจเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย จตร.(หน.จต.) , จตร. , รอง จตร. และผู้บังคับการ ในสังกัดสำนักงานจเรตำรวจ ร่วมประชุมรับมอบนโยบายที่ห้องประชุม ชั้น 4 สำนักงานตรวจสอบภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายเข้มงวดในการสร้างขวัญกำลังใจ ให้รางวัลแก่ตำรวจน้ำดี และพิจารณาลงโทษตำรวจที่ทำไม่ดีอย่างเด็ดขาด ตามนโยบายการบริหารราชการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เน้นย้ำข้าราชการตำรวจรายใดทำผิด จะต้องลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา ไม่มีซูเอี๋ย เข้าข้าง หรือให้ความช่วยเหลืออย่างเด็ดขาด ส่วนข้าราชการตำรวจที่ทำดี เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคม ต้องได้รับคำชมเชยหรือรางวัลอย่างเหมาะสมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ที่ดีต่อไป ทั้งนี้ เพื่อมุ่งแก้ปัญหาข้าราชการตำรวจในเรื่องของระบบงาน รวมทั้งเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่เรียกว่า culture of lawfulness หรือวัฒนธรรมแห่งการเคารพกติกาและกฎหมาย
พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า นอกจากนี้วานนี้ (18 ก.พ.68) ตนได้เป็นประธานโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เร่งรัดสำนวนคดีออนไลน์และสร้างมาตรฐานระบบการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อทบทวนและเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในวิธีการใช้งานระบบริหารจัดการ สืบสวน สอบสวน ตรวจสอบวิเคราะห์รายละเอียดของคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยมีกำหนดการจัดโครงการดังกล่าว ระหว่างวันที่ 16-21 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมมัสดีฟส์ บีช รีสอร์ท อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
สืบเนื่องจากปัจจุบันเกิดปรากฏการณ์ New paradigm (กระบวนทัศน์) ทางอาชญากรรมขึ้นมาใหม่ เนื่องจากขณะนี้ คดีอาชญากรรมออนไลน์ , คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นคดีรูปแบบใหม่ New Normal ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากรูปแบบเดิม ๆ เป็นรูปแบบการทำงานแบบใหม่ทั้งหมด เพราะคดีเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว คนร้ายสามารถใช้โทรศัพท์หลอกลวงคนเป็นร้อยล้านครั้งในเวลาอันสั้น เป็นการทำลายรูปแบบการทำงานแบบเดิมทั้งหมดในกระบวนการยุติธรรม ไม่เหมือนกับการวิ่งราวทรัพย์ หรือคดีพื้นฐานอื่น ๆ ซึ่งคดีรูปแบบใหม่นี้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วมาก ทำให้ต้องหาข้อมูลอย่างรวดเร็วจากธนาคารต่าง ๆ หรือการปิดกั้น ยับยั้ง ระงับข้อมูลในเชิง AI ต้องทำอย่างรวดเร็ว
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ดังนั้นจึงต้องมีการระดมความเห็นเพื่อหาวิธีการรับมือให้สอดคล้องกับรูปแบบอาชญากรรมรูปแบบใหม่ New paradigm ซึ่งขณะนี้ตำรวจและทางการไทยกำลังต่อกรกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงของคดีเป็นจำนวนมาก แต่คดีอาจจะเหลือน้อยลงเพราะเป็นคดีเรื่องเดียวกัน จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพและสามารถนำตัวคนร้ายมาลงโทษได้อย่างรวดเร็ว
“ในส่วนนี้จะดำเนินการเป็นไกด์ไลน์เพื่อสร้างวิธีการทำงานในรูปแบบใหม่ แล้วนำรูปแบบนี้ไปใช้กับตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาประชาชนได้ทั้งในเรื่องการจับกุมคนร้าย และในเรื่องของการติดตามทรัพย์สินกลับมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ” จตช. กล่าว ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี