"บิ๊กต่าย"ยังไม่ได้รับรายงานผลสอบวินัย"บิ๊กโจ๊ก" ยันไม่ต้องรอ ป.ป.ช.ชี้มูล หากพบผิดจริงเอาออกราชการได้เลยแม้ยศ"พล.ต.อ."ก็ตาม ด้านจเรตำรวจยัน 20 ก.พ.นี้ผลสอบออกแน่นอน หากไม่พอใจสามารถอุทธรณ์ได้

19 ก.พ.68 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีครบกำหนดการตรวจสอบวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) ว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้ได้รับรายงาน เพราะเป็นเรื่องระหว่างคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งตามขั้นตอนถึงแม้ในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันครบกำหนด 270 วัน ก็ยังสามารถที่จะขยายเวลาได้ (ไม่เกิน 90 วัน) แต่ตามขั้นตอนหากคณะกรรมการพิจารณาแล้วเสร็จ จะต้องส่งมาให้ทางกองวินัย จากนั้นทางกองวินัยจะประมวลผลทั้งหมดและส่งมาให้ตนเอง ที่เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการพิจารณา ก่อนที่จะประกาศผลการสอบสวน

ผบ.ตร.กล่าวว่า สำหรับการสอบสวนคดีวินัยร้ายแรงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา ที่ทางพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ถูก ป.ป.ช.พิจารณา ดังนั้นผลการสอบสวนจึงแยกออกจากกัน แต่หากทางคณะกรรมการฯ มีการขยายเวลาเกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้รอผลหรือรอดูท่าทีจาก ป.ป.ช.  ทั้งนี้ยืนยันว่าการสอบสวน หากพบว่ามีความผิดจริง ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ. พล.ต.ท. พล.ต.ต. หรือแม้แต่ชั้นประทวนก็สามารถดำเนินการได้ไม่ยาก พร้อมย้ำว่าการเอาข้าราชการตำรวจออกจากราชการ ทำได้ทุกระดับชั้นหากมีความผิดจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนที่มองว่ามีการชะลอหรือประวิงเวลาในการพิจารณามานานเกือบ 270 วัน เป็นเพราะว่าจเรตำรวจแห่งชาติในฐานะประธานกรรมการ ใจไม่ถึงในการพิจารณาที่จะมีคำสั่งเด็ดขาดเมื่อครบกรอบเวลาหรือไม่

“ไม่เกี่ยวกับว่าใจถึงหรือไม่ถึง และจเรจะเป็นใครก็ตาม ก็ต้องดูตามพยานหลักฐาน หากพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอว่าตำรวจผู้นั้นกระทำผิดวินัยก็ว่าไปตามสถานะของวินัยนั้น เนื่องจากบางครั้งการถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงอาจจะไม่มีความผิดก็สามารถเป็นไปได้“ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว 

ด้าน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. และพวกกระทำผิดวินัยร้ายแรงกรณีเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ ยืนยันว่า ผลการสอบวินัยร้ายแรงจะแล้วเสร็จทันตามกรอบกำหนดในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) อย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช อดีตรอง ผบ.ตร. ได้มีการสอบไปแล้วมากกว่า 90% ส่วนตัวในฐานะประธานคณะกรรมการฯ คนใหม่ ก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีผลจากคณะกรรมการฯ ที่สามารถสรุปผลการพิจารณาให้กองวินัย จากนั้นก็จะถือว่าหมดหน้าที่ตามกรอบระยะเวลา 270 วัน

"ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ทางกองวินัยจะมีการเสนอไปยังคณะกรรมการกลั่นกรองโทษ ที่มีนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร. ทั้ง 6 ท่าน รวมจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวเป็นเพียงที่ปรึกษาไม่มีสิทธิชี้โทษ จากนั้นคณะกรรมการกลั่นกรองโทษจะนำผลทั้งหมดส่งไปให้ ผบ.ตร. พิจารณาและประกาศผล สำหรับผลการสอบทางวินัยของคณะกรรมการฯ ไม่เกี่ยวข้องกับผลทางคดีอาญา ส่วนหาก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่พอใจผลการพิจารณาก็สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อ ก.พ.ค.ตร.รวมถึงฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดได้ ยืนยันว่าไม่กังวลเพราะทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน "พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าว