nn มีคำถามมาจากประชาชนคนรักวัฒนธรรมและประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานว่า ทำไมเวลาที่ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองออกมาพูดมาเตือนเรื่องการ “สมรสเท่าเทียม” ซึ่งมันฝืนมันแย้งกับธรรมชาติความเป็นมนุษย์ จึงมีคนบางคน “ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด” ตำหนิคนที่ออกมาเตือน ทั้งๆ เขาเตือนคนอาชีพเดียวกันกับเขาอย่างตำรวจว่า การจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ชายกับชาย พูดง่ายๆ แต่งงานกัน ถ้าวันดีคืนดีเกิดไปกอดจูบลูบคลำกัน (ตำรวจ) แล้วประชาชนเห็น สังคมเห็น ความรู้สึกของประชาชน หรือสังคมเมื่อเจอะเจอกับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์กระทำเช่นนั้น จะมีอาการคลื่นไส้ สิ้นหวัง สิ้นศรัทธาหรือไม่ กองทัพไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหารโดยหลักต้องไม่มีสภาพพฤติกรรมเบี่ยงเบนผิดธรรมชาติอย่างนี้เด็ดขาด เพราะมันหมายถึงความอ่อนแอไร้เสถียรภาพขององค์กร ที่สำคัญไม่เหมาะอีกต่างหาก การที่ใครบางคนแหกปากบอกว่าโลกเปลี่ยน ที่จริงโลกไม่ได้เปลี่ยน แต่คนมันเสื่อม

nn แน่นอนคนสนับสนุน เช่น พวกเสื้อนอกในสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่ที่คิดแก้กฎหมายสนับสนุนกันจนลืมหูลืมตาลืมธรรมชาติ “หญิงกับชาย” เป็นต้นเหตุให้กระทำกันถูกต้องตามกฎหมายนั้นประชาชนคนรักวัฒนธรรมดังกล่าวจึงตั้งคำถามว่า ถ้าต่อไปสังคมวุ่นวายอ่อนแอ วิบัติหนัก “ไอ้-อี” คนไหนหน้าไหนในสภาฯจะออกมาแอ่นอกรับผิดชอบ ทุกอย่างคิดกันเฉพาะมิติคะแนนเสียงอย่างเดียวหรืออย่างไร ประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งอเมริกา ชูธงยอมรับคน 2 ประเภทเท่านั้น (เพศหญิงกับชาย)

nn นี่คือเสียงบ่นจากประชาชนคนสูงวัย และเห็นด้วยกับ นายตำรวจมือปราบฯคนดีคนจริงที่ไม่ก้มหัวให้กับอิทธิพลหน้าไหนซึ่งเขาออกมาเตือนเฉพาะคนมีอาชีพเดียวกันเท่านั้น ไม่ได้ละเมิดสิทธิของใคร เพราะใครจะคิดจะเป็นอย่างไรไม่มีใครห้ามได้แต่ตำรวจหรือกองทัพไม่ควรมีเรื่องพรรค์นี้

nn บอกตรงๆ“ไผ่ฎำ” เห็นด้วยและชื่นชมคนกล้าพูดกล้าเตือน ที่สำคัญยังมีผู้คนอีกจำนวนมากทุบโต๊ะสนับสนุนว่ากองทัพ ตำรวจ ทหาร ต้องไม่มีเรื่องดังกล่าว ด้วยเหตุนี้เขาจึงคัดตัวทรัพยากรแมนๆเข้ากรมกอง และวันนี้เมื่อมันมีขึ้นแล้วอนาคตใครจะรับผิดชอบกับปัญหาที่จะเกิด โดยหลักนักการเมืองนั่นละต้องรับผิดชอบ เรื่องดีๆ มีประโยชน์ต่อบ้านต่อเมืองมีอยู่เพียบไม่มีต่อมสำนึกทำ เช่น การแก้กฎหมายให้ สส.อยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัยติดต่อกันตัดวงจรการสร้างอิทธพล หรือนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกฯอยู่ในตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัยติดต่อกันอย่างนี้นักการเมืองคิดเป็นหรือไม่ หรือบางคนคิดได้แค่วิ่งเต้นเป็น สส. เป็นรัฐมนตรีจนกระทั่งลาโลก ทั้งๆ บางคนบุคลิกไม่น่าจะเป็นได้ แต่ได้เป็นแบบค่อนข้างทุเรศเหลือหลาย อนิจจาบางคนบางคณะก็ตั้งกลุ่มวิ่งเต้นต่อรองเป็นรัฐมนตรี ตรงนี้ทำไมไม่คิดอ่านแก้ไขป้องกันเปิดโอกาสให้คนอื่นเขาทำงานบ้างบ้านนี้เมืองนี้เป็นของคุณคนเดียวหรืออย่างไร ย้ำนี่เป็นคำถามของประชาชน nn
 

ไผ่ฎำ