ลูกสาวโทรฯบอกแม่ถูกแฟนทำร้าย อ้างถูกกักขัง แม่ประสานทนายไพศาลช่วยด้วยเข้าช่วยเหลือ ด้านฝ่ายชายเปิดใจทำร้ายร่างกายจริง เพราะฝ่ายหญิงแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายอื่นหลายคน

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเวลา 13.00. ที่บ้านมาบเหล่า ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง ผู้เป็นแม่คือ น.ส.กิติยา (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ได้ลงพื้นที่ร่วมกับ ทีมทนายไพศาลช่วยด้วย
โดย น.ส.กิติยา ผู้เป็นแม่เผยว่า ขณะตนเองทำงานอยู่เขตลาดกระบัง กทม. ลูกสาวคือ น.ส.เอ อายุ 25 ปี (นามสมมุติ สงวนชื่อ-สกุล) ได้โทรมาร้องให้บอกว่าถูกแฟนทำร้ายร่างกาย และอ้างว่าถูกกักขัง ตนเองจึงร้อนใจเดินทางจากกรุงเทพฯไประยอง ขอความช่วยเหลือไปยัง แมน สะพานบุญบ้านเพ เพื่อลงพื้นที่ช่วยเหลือ ที่บริเวณริมถนน ตรงจุดนัดพบ บริเวณปากซอยแหลมหินหนึ่ง น.ส.เอ เดินถือกระเป๋าตรงดิ่งมาหาแม่ เมื่อ 2 แม่ลูกเจอกันโผเข้ากอดกันทันทีเพราะความห่วงใย

ด้านน.ส.เอ เล่าว่า ตนเองอยู่กับแฟนมาได้ 6 เดือน เค้าทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ให้ไปแค่ร้านค้าไม่ให้ออกไปไหนเลย หนูอึดอัดใจจึงโทรบอกแม่ให้มาช่วยเหลือ

ขณะที่ แมน สะพานบุญบ้านเพ ซึ่งเป็นตัวแทนทีมของทนายไพศาลช่วยด้วยในจังหวัดระยอง กล่าวว่า ผู้เป็นแม่คือ น.ส.กิติยา เค้าโทรมาขอความช่วยเหลือว่าลูกสาวถูกแฟนทำร้ายร่างกาย กักขัง เราจึงรับเคสช่วยเหลือและลงพื้นที่ช่วยน้องได้สำเร็จตอนนี้น้องปลอดภัยแล้ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายบี อายุ 30 ปี (นามสมมุติ-สงวนชื่อสกุลจริง) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น

นายบี เล่าว่า ยอมรับว่าทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ แฟนสาวจริง สาเหตุที่ทำเพราะระหว่างที่อยู่ด้วยกัน น.ส.เอ คุยกับชายอื่น ตนยังจับได้ว่า น.ส.เอ ไปมีสัมพันธ์กับชายอื่นหลายครั้ง ด้วยความโมโหจึงทำลงไป ส่วนเรื่องกักขังตรงนี้ยืนยันไม่เป็นความจริง ตนเองก็รักเค้าจึงทนอยู่จนทุกวันนี้ แต่ถ้าวันนี้แม่เค้ามารับ ถ้าเค้าตัดสินใจจะเลิกก็ไม่ว่ากัน

สำหรับเรื่องที่เกิด ผู้เป็นแม่ได้เข้าไปคุยกับญาติฝ่ายชาย โดยญาติฝ่ายชายไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ โดยผลจากการพูดคุย น.ส.เอ  ลูกสาวยืนยันจะเลิกกับ นายบี ทั้ง 2 ฝ่ายจึงเลิกลากัน ผู้เป็นแม่จึงพาลูกสาวเดินทางกลับแยกย้ายกันต่างคนต่างไป