ไข้หวัดใหญ่พุ่ง

4จว.อีสาน/ดับ3

รัฐบาลสั่งรับมือ

เร่งลุยฉีดวัคซีน

“ไข้หวัดใหญ่” ระบาดใน 4 จังหวัดภาคอีสานพุ่ง “นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชัยภูมิ” เสียชีวิตแล้ว 3 ศพ รัฐบาลสั่งรับมือ แนะประชาชนเร่งฉีดวัคซีนป้องกัน ส่วน‘ไข้เลือดออก’พบสถิติการติดเชื้อลดลง แต่ต้องเฝ้าระวังเพื่อความปลอดภัย

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดอยู่บางจังหวัด หลังจากพบการระบาดของโรคประจำฤดูกาล โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบสถานการณ์ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ปี 2568 ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ดูแลของเขตสุขภาพที่ 9 มีผู้ป่วยสะสมพุ่งสูงเป็น 6,938 ราย และปีนี้มีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 3 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-10 กุมภาพันธ์ 2568

โดย จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยมากสุด 3,719 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย รองลงมาคือ จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 1,753 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 800 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และ จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 666 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยพบผู้ป่วยมากที่สุดในเด็กอายุ 5-9 ปี รองลงมาคือ อายุ 4 ปี และ 3 ปี ตามลำดับ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สถานการณ์ระบาดโรคไข้เลือดออก จากคาดการณ์ทางสถิติ พบว่าปี 2568 ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกลดลง โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–12 กุมภาพันธ์ 2568 พบรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 3,550 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 5.37 ต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมา 4.8 เท่า โดยกลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงสุดยังคงเป็นเด็กวัยเรียนอายุ 5–14 ปี รองลงมาคือ อายุ 15–24 ปี และพบผู้ป่วยสูงทางภาคใต้ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุดช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ จ.ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง และนราธิวาส ตามลำดับ ส่วนผู้เสียชีวิต พบว่ามีผู้เสียชีวิต 5 ราย เฉลี่ยอยู่ที่สัปดาห์ละ 1 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ โดยปัจจัยเสียชีวิตหลักยังคงเป็นภาวะอ้วน และการได้รับยากลุ่ม NSAIDs

“รัฐบาลสั่งการให้หน่วยงานด้านสาธารณสุข เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ระบาดอย่างเต็มศักยภาพ เน้นย้ำให้ประชาชนหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และเข้ารับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปีๆ ละ 1-2 ครั้ง ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ที่กำลังมีการระบาดในขณะนี้ หากอยู่ในสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมาก ควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่ สามารถแพร่กระจายได้ทุกเพศทุกวัย และมักเกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสถานที่ต่างๆ เช่น โรงเรียน เรือนจำ ค่ายทหาร หรือสถานที่ทำงาน ส่วนการระบาดโรคไข้เลือดออก แม้สถานการณ์ระบาดจะลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา แต่ประชาชนต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะพี่น้องชาวใต้ ซึ่งปัจจุบันพบการระบาดในหลายจังหวัด” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว