อุตุเตือนทั่วไทย

ช่วง23-25ก.พ.

พายุฝน/ลมแรง

ระวังลูกเห็บตก

อุตุฯ เตือน อากาศแปรปรวน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกฝนตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ขณะฝุ่น PM2.5ทั่วไทยยังเกินค่ามาตรฐาน 31จว. อีก7วัน ต้องเฝ้าระวัง ส่วนกทม.56 พื้นที่ค่าฝุ่น ยังสูงระดับสีส้ม

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2568) ฉบับที่ 3 (34/2568) มีใจความว่า ช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2568 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และภาคตะวันออก มีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอุณหภูมิจะลดลง

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งระมัดระวังรักษาสุขภาพช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมา เคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ขณะที่ประเทศไทยตอนบน มีอากาศร้อน

สำหรับภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง

ด้านศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ดังนี้ ภาพรวมปริมาณฝุ่น PM2.5 ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐาน 31 จังหวัด ได้แก่ จ.ปทุมธานี กทม. จ.นนทบุรี จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ระยอง และ จ.ตราด

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 17.2–58.7 ไมโครกรัม (มคก.)/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ตรวจวัดได้ 18.9–35.9 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 19.5–66.6 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐาน 5 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 18.5–57.6 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 8.4–14.1 มคก./ลบ.ม.ส่วน กทม.และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ.ร่วมกับกรุงเทพมหานคร เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 27.0–60.3 มคก./ลบ.ม.

สำหรับคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง 7 วันข้างหน้า พื้นที่ กทม.และปริมณฑล มีแนวโน้มลดลงวันที่ 25–26 กุมภาพันธ์ 2568 และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ ส่วน 17 จังหวัดภาคเหนือ มีแนวโน้มลดลงวันที่ 24–26 กุมภาพันธ์ 2568 และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มลดลงวันที่ 23–27 กุมภาพันธ์ 2568 และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ ภาคตะวันออก มีแนวโน้มลดลงวันที่ 25–26 กุมภาพันธ์ 2568 และยังคงต้องเฝ้าระวังในบางพื้นที่ ภาคใต้ ดีอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ตรวจวัดได้ 30.5-60.3 มคก./ลบ.ม.พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) รวม 56 พื้นที่ โดยพื้นที่ 5 อันดับแรก ที่มีค่าฝุ่นสูง ได้แก่ 1. เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม มีค่าเท่ากับ 60.3 มคก./ลบ.ม. 2.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา มีค่าเท่ากับ 57.4 มคก./ลบ.ม. 3.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 มีค่าเท่ากับ 56.9 มคก./ลบ.ม. 4.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี มีค่าเท่ากับ 53.4 มคก./ลบ.ม.และ 5.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา มีค่าเท่ากับ 52.4 มคก./ลบ.ม.

ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ดี-ดีมาก” ขณะที่อินเวอร์ชั่นเกิดใกล้ผิวพื้น แต่มีโอกาสเกิดฝนตก คาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง