ย่าร่ำไห้ร้องสื่อ!! หลานสาววัย 12 ถูกรุ่นพี่ต่างโรงเรียนลุยตบถึงห้องนอนในบ้าน พร้อมโพสต์คลิปประจานให้อับอาย พร้อมเข้าแจ้งความดำเนินคดี ขณะที่นายอำเภอเชิญคู่กรณีไกล่เกลี่ย หาทางออกร่วมกัน ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งในชุมชน
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของน้องน้ำปิง (นามสมมุติ) เด็กญิงวัย 12 ปี ส่งคลิปมาร้องกับผู้สื่อข่าวว่า หลานตัวเองถูกรุ่นพี่ต่างโรงเรียนเข้ามาทำร้ายถึงในบ้าน พร้อมหลักฐานเป็นคลิป โดยภาพในคลิปเห็นเป็นเด็กสาววัย 12 ปีใส่ชุดนอนสีเหลืองลงไปนอนกองอยู่บนที่นอน โดยมีเด็กผู้หญิงสวมชุดสีดำ กระชากศีรษะพร้อมใช้มือตบหน้า ใช้เท้าเตะ นั่งลงไปตบ ยืนคร่อมตบและกระชากศีรษะอีกครั้งก่อนคลิปจะตัดไป โดยในระหว่างที่เด็กผู้หญิงชุดดำตบเด็กผู้หญิงชุดนอนอยู่นั้นเธอพยายามพูดตลอดว่านินทาตนทำไม อย่าให้ได้ยินอีก ท่ามกลางเสียงคนที่มาด้วยกัน และคนถ่ายคลิปที่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่ดูสะใจกับการกระทำในคลิป เหตุเกิดขึ้นที่จังหวัดกำแพงเพชร
จากนั้นคลิปดังกล่าวก็ถูกส่งต่อกันไปทำให้เด็กหญิงที่โดนตบ นอกจากจะได้รับบาดเจ็บเลือดกบปากแล้ว ยังทำให้เกิดความอับอาย ซึ่งจากเหตุการดังกล่าวผู้ปกครองได้พาผู้เสียหาไปแจ้งความไว้ยัง สภ.ปางศิลาทองไว้แล้ว ขณะนี้รอเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนตามกฏหมาย แต่ระหว่างที่รอลูกสาวยังรู้สึกหวาดกลัวและอับอายต่อเหตุการที่เกิดขึ้น
เด็กหญิงน้ำปิง อายุ 12 ปี ผู้เสียหายพาไปดูภายในห้องนอนซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ โดยเธอเล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุ (12 กุมภาพันธ์ 2568) ตนนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องนอน จู่ๆรุ่นพี่คนดังกล่าว โทรศัพท์เข้ามาว่าจะขอเคลียร์ เรื่องที่เคยมีปัญหากันเนื่องจากเคยมีการเข้าใจผิดกันที่ว่าตนไปนินทาเขาลับหลัง จากนั้นรุ่นพี่พร้อมเพื่อนๆได้เข้ามาด้านในและมีรออยู่ด้านนอก แต่เมื่อคุยยังไม่ทันลงตัวคนในกลุ่มก็ยุให้รุ่นพี่คนดังกล่าวทำร้ายตน ตามคลิปวีดีโอดังกล่าว ตนรู้สึกผวาและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ด้านนางละออง อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นย่าของน้องน้ำปิง เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้านออกไปทำงานตามปกติ จนกระทั่งครูที่โรงเรียนเห็นคลิปที่หลานตนโดนทำร้ายและโทรศัพท์มาบอกตน เมื่อเห็นคลิปแล้วรู้สึกรับไม่ได้สงสารหลานจึงไปแจ้งความ ซึ่งคู่กรณีไม่ได้ติดต่ออะไรมาเลย จนไปเจอกันบนโรงพัก ก็ยื่นข้อเสนอให้เงิน 5 พันบาท เรารู้สาเหตุว่าเป็นเรื่องนินทากันไม่น่ามาทำก้นแบบนี้ อยากได้ความเป็นธรรมกับหลานตนด้วย เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก นี่ครั้งที่สอง แล้วตนเสียใจมาก
ขณะที่เด็กหญิงน้ำเพชร อายุ 13 ปี ผู้ก่อเหตุเล่าให้ฟังว่า ในตอนแรก น้องเขามีเรื่องกับเพื่อนตน ทราบมาว่าน้องเอาตนไปนินทา แล้ววันนั้น ตนได้ขอแม่ตนไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน ส่วนเพื่อนก็จะไปเอาไปเสื้อผ้าที่บ้านน้องด้วย พอกลุ่มเพื่อนเข้าไปเอาเสื้อผ้าบ้านน้องตนก็ยืนรออยู่หน้าบ้าน ซึ่งก่อนที่ตนจะเข้าไปในบ้านของน้องสักครู่ตนได้โทรศัพท์เข้าไปขอ น้องเข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งทางน้องก็ได้อนุญาต ตนจึงเข้าไป ซึ่งเข้าไปในห้องนอนโดยช่วงแรก ตนและน้องยังไม่ได้ ลงมือทำร้ายกันแต่อย่างใด โดยได้นั่งพูดคุยกันก่อน
ต่อมากลุ่มเพื่อนตน ที่เข้ามาทีหลัง ได้มาเล่าเหตุการณ์ที่น้องใส่ร้ายตนให้ฟัง ซึ่งตนก็อยากรู้ว่า ทำไมน้องถึงพูดนินทาตนอย่างนั้น ตนจึงได้พยายามสอบถามกลุ่มเพื่อนว่า น้องได้พูดถึงตนบ้างหรือเปล่า ซึ่งกลุ่มเพื่อนได้พูดว่าน้องบอกว่าตนเป็นคนที่คบไม่ได้ เป็นคนที่ขายเพื่อนพ้อง หลังต้นได้ยิน ความรู้สึกว่ากระทบจิตใจมาก เลยโมโห ตนเลยลุกยืนขึ้น น้องเขาก็ยืนตามตน ตนจึงถามไปว่าจะเอายังไง น้องก็เลยเอามือดึงตนไป ตนก็เลยดึงกลับตอบโต้ แล้วมือน้องก็หลุดอย่างที่เห็นในคลิป
"เมื่อทะเลาะวิวาทกันเสร็จ สักครู่ ทั้งน้องและตนก็ใจเย็นลง ก็เลยไปนั่งคุยกัน ตนจึงได้ถามน้องไปว่าได้พูดถึงพี่จริงๆใช่ไหม ซึ่งน้องก็ยอมรับว่าพูดจริง ซึ่งในเวลาต่อมา ทั้งกลุ่มเพื่อนตนและน้องก็ได้นั่งคุยกันพร้อมทั้ง กินมะม่วงด้วยกัน ลักษณะมาพูดขอโทษกัน ซึ่งตนก็ได้พูดไปว่า ถ้าจบก็คือจบ ไม่มีเรื่องอะไรกันแล้วนะ ซึ่งน้องก็บอกว่า โอเคจบก็คือจบ ไม่มีอะไรแล้ว"เด็กหญิงน้ำเพชร กล่าว
และว่า แต่พอถึงช่วงเย็น ตนยังได้สอบถามน้องอีกว่า จะมีอะไรกับพี่อีกหรือเปล่า ขึ้นทางน้องเองก็ไม่มีอะไรค้างคาอีก แต่ว่าทางบ้านผู้ปกครองเขาไม่ยอม ซึ่งส่วนหนึ่ง น่าจะเป็นเพราะว่าตนได้เอาคลิปดังกล่าวไปโพสต์ในโลกโซเชียล ซึ่งตนไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายเนื่องจากตนและน้องเข้าใจกันแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ยืนยันว่าก่อนเข้าไปหาน้องในห้องได้โทรศัพท์ติดต่อ ขอเข้าไปพูดคุยกับน้องแล้วว่าจะขอเข้าไปพบ ซึ่งในวันนี้ หากพบกันตนก็อยากจะขอโทษ ซึ่งฝั่งตนตอนนี้ก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว หนูกับน้องก็ดีกันแล้ว ตนก็ยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด และตนยอมรับว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน
ด้านนาง ศิริกัลยา อายุ 41ปี แม่ของน้องน้ำเพชร ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาหาตนที่บ้าน แจ้งทราบถึงเหตุที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามประสาน ขอเบอร์ผู้เป็นย่าของผู้เสียหาย เพื่อที่จะเข้าไปดูแลเขา ตนก็ไม่ได้สนับสนุนความรุนแรงแบบนี้อยู่แล้ว เพราะโดยส่วนตัวติดตามผลงานของกัน จอมพลัง มาโดยตลอด ตนก็เกลียดมากเรื่องแบบนี้ ก็ได้โทรไปหาผู้เป็นย่าเพื่อขอโทษ และจะขอเข้าไปดูน้อง สอบถามไปว่าบาดเจ็บเยอะไหม ซึ่งย่าของน้องได้บอกว่าน้องมีช้ำๆบ้าง มีดวงตาแดงเนื่องจากร้องไห้ ซึ่งตนก็ได้บอกขอโทษ ไม่ได้ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ ได้แสดงความเสียใจ ได้พูดย้ำว่าจะขอเข้าไปดูอาการน้อง ซึ่งไปรับแจ้งจากย่าว่าไม่สะดวก และได้แจ้งกับตนว่า ให้ไปเจอที่โรงพัก ซึ่งในเบื้องต้นตนและผู้เสียหายก็ได้พูดคุยถึงเรื่องการไกล่เกลี่ยกัน แต่ก็ยังไม่เป็นผล จนกระทั่งมีการเรียกคุยในวันนี้
ทั้งนี้ หลังจากทราบเรื่องดีงกล่าวนายเสน่ห์ ชัยมงคล นายอำเภอปางศิลาทอง ได้เชิญคู่กรณีรวมทั้งญาติๆทั้งสองฝ่าย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำท้องถิ่น เข้ามาร่วมพูดคุยหาทางออกร่วมกันจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งภายในชุมชน ซึ่งยอมรับว่าเป็นความรุนแรง ที่ต้องช่วยกันดูแล โดยได้เปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุย เจรจาไกล่เกลี่ยกัน เน้นย้ำคำนีงถึงอนาคตเด็กทั้งสองฝ่ายเป็นอันดับต้นๆ
ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.ปางศิลาทอง กล่าวในที่ประชุมว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องในส่วนของเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี แนวทางกฎหมายในการพิจารณาคดี มีธงตั้งเอาไว้อยู่แล้ว แต่ในเมื่อเป็นเรื่องของเด็กเราเป็นผู้ใหญ่ เราที่สามารถที่พูดคุยเจรจากันได้ตาม พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ย ซึ่งยังสามารถที่จะยอมความได้ ตำรวจได้ทำตามขั้นตอนของตำรวจเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ผู้ปกครองจะตกลงกันอย่างไรเท่านั้นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี