ตำรวจประจวบนำหมายศาลจับกุมตัว"ไอ้หนึ่ง"ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืน 9 มม.จ่อยิงหัวชิงทองพื้นที่ สภ.บางสะพาน หนีกบดานพื้นที่ สภ.สามร้อยยอด นาน 2 เดือน พบประวัติมีคดีถูกจับอาวุธปืนและยาเสพติดเพียบ และคดีหนีหมายจับค้างเก่ายาวเป็นหางว่าว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 68 พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ สุขสำราญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานแทน พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพิธีแถลงข่าวผลงานการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุคดีใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงแล้วชิงทรัพย์สร้อยทอง-สร้อยข้อมือทองคำ แล้วหลบหนีในพื้นที่ สภ.บางสะพาน อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี พ.ต.ท.ชัยนรงค์ ดีศิริ รอง ผกก.สส.ภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ชัยรินทร์ แก้วสุวรรณ ผกก.สภ.บางสะพาน ร่วมแถลงข่าว และมีสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวครั้งนี้ ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทั้ง นี้สืบเนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 01.55 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายรุ่งฤทัย หมื่นราม(เอ๋) แล้วชิงทรัพย์ (สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท และสร้อยข้อมือ น้ำหนัก 2 บาท ) แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดท้องที่ สภ.บางสะพาน บริเวณถนนสะพานข้ามทางรถไฟเขาสีเสียด ม.6 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ
โดยวันที่ 20 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 22.30 น. นายรุ่งฤทัย หมื่นราม(เอ๋) ผู้ตาย ได้ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดที่บริเวณ บ้านปอแดง ม.3 ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ จนกระทั่งวันที่ 21 ธันวาคม 2567 เวลา 01.27 น. นายรุ่งฤทัยฯ (ผู้ตาย) ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากงานเลี้ยง เพื่อกลับบ้านไปตามถนนสายเขาน้อย - เขาสีเสียด ในระหว่างนั้นได้มีคนร้าย ซึ่งทราบชื่อภายหลัง คือนายปิยะพงษ์ (หนึ่ง) แก้วฉวี ได้จอดรถยนต์กระบะดักคอยอยู่บริเวณแยกวัดเขาน้อย แล้วขับขี่รถยนต์ติดตามผู้ตายไปจนกระทั่งถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ถนนข้ามทางรถไฟเขาสีเสียด ม.6 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ คนร้ายและผู้ตายได้จอดรถต่อว่ามีปากเสียงกัน หลังจากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงนายรุ่งฤทัยฯ ถึงแก่ความตาย แล้วชิงทรัพย์สร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ไปตรวจที่เกิดเหตุพบศพ นายรุ่งฤทัย (เอ๋) หมื่นราม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/2 ม.6 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ 2 นัด และลำตัว 3 นัด ได้รับบาดเจ็บอยู่ในที่เกิดเหตุและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลบางสะพาน โดยในที่เกิดเหตุมี รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอ็มสแลช ทะเบียน 1กฌ 5161 ประจวบคีรีขันธ์ สีน้ำเงิน-ขาว ซึ่งเป็นของผู้ตายจอดล้มอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 ปลอก และหัวกระสุนปืน จำนวน 1 หัว จึงได้เก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ ยังพบว่าสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น และ สร้อยข้อมือ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น รวมมูลค่าประมาณ 180,000 บาท ของผู้ตายได้สูญหายไป ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนได้สืบหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุจากคลิปเสียงในกล้องวงจรปิดที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ จนรู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุและหนีไปกบดานอยู่ที่บริเวณบ้านเช่าเลขที่ 59/8 หมู่ 4 ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงนำหมายศาล ตามหมายจับศาลประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.238/2567 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2567 จับกุมตัวนายปิยะพงษ์ หรือ หนึ่ง (สงวนนามสกุล) ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน” ซึ่งผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหามีประวัติ 1. ถูกจับที่ สภ.บางสะพาน ใน คดีอาญา ที่ 192/2561 ข้อหา “มีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้อนุญาต (ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน)”2. ถูกจับที่ สภ.บ้านมาบอำมฤต คดีอาญา ที่ 133/2563 ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด,ร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต”3. ถูกจับที่ สภ.เมืองชุมพร คดีอาญา ที่ 59/2563 ข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้นไป หรือมียาเสพติดที่มีสารดังกล่าวผสมอยู่จำนวน 15 หน่วยการใช้ขึ้น”4. ถูกจับที่ สภ.บ้านมาบอำมฤต คดีอาญา ที่ 132/2563 ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด,ร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต” 5.ถูกจับที่ สภ.เมืองชุมพร คดีอาญา ที่ 871/2563 ข้อหา “ถ้าได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันตามวรรคหนึ่ง (ฟอกเงิน)”
นอกจากนี้ยังพบประวัติมีหมายจับที่ยังจับไม่ได้ 1. สภ.บ้านมาบอำมฤต จำนวน 2 หมาย- หมายจับที่ 68/2563 ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด,ร่วมกันในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต“- หมายจับ ที่ 69/2563 ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด,ร่วมกันในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต”2. สภ.เมืองชุมพร จำนวน 2 หมาย- หมายจับ ที่ 147/2563 ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด,ร่วมกันในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต“- หมายจับ ที่ 178/2565 ข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน) หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้นไป หรือมียาเสพติดที่มีสารดังกล่าวผสมอยู่จำนวน 15 หน่วยการใช้ขึ้นไป หรือมีน้ำหนักสุทธิตั้งแต่ 1.5 กรัม ขึ้นไป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี