ตำรวจชุดสืบสนธิกำลัง “ทลายเครือข่ายคอกม้า” จับผู้ต้องหาคน อ.บางกระทุ่ม ร่วมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกคน ต.ท่าตาล บ้านเดียวกัน เปิดบัญชีม้ากว่า 50 รายฯละ 5–6 บัญชี แถมพาคนข้ามฝั่งไปสแกนใบหน้าที่ปอยเปต ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
23 กุมภาพันธ์ 2568 พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก, พ.ต.อ.ศุภณัฐ ศตะกูรมะ ผกก.สืบสวน1 บก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.สุเมธ สุนะ ผกก.สภ.บางกระทุ่ม, พ.ต.ท.วรการ กาศเกษม รอง ผกก. สส.สภ.เมืองพิษณุโลก ร่วมเปิดยุทธการ “ทลายเครือข่ายคอกม้า” ทำการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดจัดหาคนเปิดบัญชีธนาคารให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ ตามนโยบาย พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ, พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก
ทั้งนี้สืบทราบว่า ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์, เว็บพนันออนไลน์) ชักชวนคนภายในหมู่บ้าน อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เปิดบัญชีม้ากว่า 50 ราย และจัดหาคนขับรถ รับ – ส่ง ขนคนไปทำงานสแกนใบหน้าที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายแก่ประชาชนในเขต สภ.เมืองพิษณุโลก สน.ประชาชื่น และ สภ.อื่นๆ ความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ล่าสุดวานนี้ (22 ก.พ.68 )ชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก สืบสวนภาค 6 จับกุม นายวินัย หรือนัย (ขอสงวนนาม) อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 92/11 ม.8 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
พฤติการณ์ คือ หลอกลวงชาวบ้าน ในเขตพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ให้ทำการเปิดบัญชีธนาคาร ก่อนนำไปขายต่อให้กับมิจฉาชีพ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์, เว็บพนันออนไลน์) และยังเป็นธุระจัดหาคนขับรถรับ – ส่ง คนไปทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชากว่า 50 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอให้ออกหมายจับนายวินัยฯ
ชุดสืบใช้เวลาตามหาแหล่งกบดานของผู้ต้องหา 2 วัน จึงทราบว่า ผู้ต้องหากบดานอยู่ในบ้านเช่า 25/1 ม.5 ต.ท่าตาล อ.บา อ.บางกระทุ่ม จึงนำกำลังทำการบุกเข้าจับกุม นายวินัยฯ (ผู้ต้องหา) และให้การรับสารภาพว่า ชักชวนชาวบ้านให้มาเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) และจัดหาคนไปทำงานให้กับมิจฉาชีพ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์, เว็บพนันออนไลน์) ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยทำมาแล้ว 2 ปี ชักชวนคนในหมู่บ้านเปิดบัญชีธนาคารไปแล้วกว่า 50 ราย โดยจะเปิดคนละ 5 – 6 บัญชี และนำพาทุกคนข้ามฝั่งไปทำงานสแกนใบหน้าที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา
เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่าตนนั้นไม่มีผู้ร่วมขบวนการแต่อย่างใด กระทำการเพียงผู้เดียว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล ขุดรากถอนโคนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องให้ถึงต้นตอต่อไป
สืบค้นประวัติอาชญากรรมของ นายวินัยฯ พบว่า ผู้ต้องหาเคยมีประวัติเกี่ยวพันกับยาเสพติด ถูกจับกุมและต้องโทษในคดีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 1,800 เม็ด เมื่อปี 2558 ก่อนจะพ้นโทษแล้วผันตัวมาเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีม้าจนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี