จับแก๊งขนยา รถนำแจ้งเจอด่าน รถขนยาบ้า 500,000 เม็ด หนีถนนสายรอง โดนตรเชียงรายไล่ยึด-จับได้เกือบยกแก๊งบนนถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่

23 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.เชียงราย และหน่วยงานทีเกี่ยวข้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคดียาเสพติดพร้อมของกลางเป็นจำนวนมาก หลังจากได้สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะลักลอบขนยาบ้าจำนวนมากไปตามถนหมายเลข 118 สายเชียงราย-เชียงใหม่ จึงร่วมกับ สภ.แม่สรวย จ.เชียงรายกระทั่งวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงได้วางกำลังบนถนนสายดังกล่าวตรงด่านตรวจยาเสพติดท่าก๊อ หมู่ 14 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เวลาต่อมาได้ตรวจพบะรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ป้ายทะเบียน จ.เชียงราย กับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีแดงป้ายทะเบียนกรุงเทพฯ ออกมาจากทางบ้านรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย และใช้เส้นทางสายเด่นห้า-ดงมะดะ ไปทาง อ.แม่สรวย มุ่งหน้าจะไปทาง จ.เชียงใหม่

เมื่อรถขับไปถึงด่านตรวจยาเสพติดดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้เรียกรถยนต์คันแรกพบมีนายมานพ อายุ 22 ปี เป็นคนขับ และมีนายสุรชัย อายุ 25 ปี นั่งโดยสารมาด้วย ตวรจสอบภายนอกไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ทั้ง 2 คน แสดงอาการพิรุธ หน้าซีด ตัวสั่น และมีโทรศัพท์เข้ามาตลอดเวลา ส่วนรถยนต์เก๋งที่ขับตามมาพบว่า ได้ใช้ถนนสายรองเลี่ยงด่านตรวจยาเสพติดและขับไปถึงพื้นที่หมู่บ้านหนองหล่ม หมู่ 4 ต.เจดีย์หลวงอ.แม่สรวย  เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังออกไล่ติดตามไปจนถึงหมู่บ้านดังกล่าว ปรากฎว่าคนขับรถยนต์เก๋งได้เลี้ยวหลบหนีเข้าไปในสวนลำไยของชาวบ้าน ก่อนจะทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าไป 

จากการตรวจสอบในรถยต์เก๋งพบที่กระโปรงหลังรถบรรทุกกระสอบฟางมาด้วย 2 ใบ ภายในมียาเสพติดประเภทยาบ้ารวมกันจำนวน 500,000 เม็ด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางและติดตามจับกุมคนที่หลบหนีต่อไป 

เบื้องต้นทราบว่าผู้หลบหนีเป็นพี่ชายของนายมานพ ผู้ขับรถยนต์กระบะ  โดยทั้ง 3 คนได้รวมกันขนยาเพติดไปส่งภาคกลางแล้ว 2 ครั้ง โดยนายมานพ จะขับรถนำและนายสุรชัย คอยโทรศัพท์แจ้งเตือนผู้ที่หลบหนีกรณีพบเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีในข้อหา " “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยำเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.

.012