ป่วนใต้หลายจุด/ตาย1เจ็บ11ราย
คาร์บอมบ์รับ‘แม้ว’
บริเวณสนามบินนราธิวาส
เจ้าตัวโวลั่นไม่กลัวเหตุบึ้ม
ถูกลอบสังหารมาแล้ว4ครั้ง
ยอมเอ่ยปากขออภัยคดีตากใบ
“เทวดาแม้ว” โชว์บารมี หนีบรมว.กลาโหม-ยุติธรรม ขรก.ชั้นผู้ใหญ่ ลงพื้นที่นราธิวาสชายแดนใต้ ย้ำไม่เคยกลัวระเบิด เพราะถูกลอบฆ่ามาถึง 4 หน ทั้งขออภัยคดีสังหารหมู่ที่ตากใบ รับการทำงานย่อมผิดพลาดกันได้ พร้อมประกาศน้อมนำแนวราชพระราชดำริ ในหลวงร.9 ‘เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา’มาปฎิบัติ ด้านโจรใต้เขย่าขวัญ บึ้มใกล้สนามบิน จัดคาร์บอมที่ยะลา ตาย1เจ็บ11
เมื่อเวลา 09.50น.วันที่ 23ก.พ.2568นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนราธิวาส พร้อมด้วนนายภูมิธรรม เวชชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)พ.ต.ท.วรรณพงศ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดใช้แดนใต้ (ศอ.บต.) และผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และประชาชน มารอต้อนรับการเดินทางมายังจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบเกือบ 20 ปี ของอดีตนายกฯ โดยมีประชาชนมารอต้อนรับ พร้อมมอบดอกไม้ พร้อมพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้การต้อนรับ และเข้ามาขอถ่ายรูป ซึ่งประชาชนกล่าวทักทายนายทักษิณด้วย ว่า “ยังดูหนุ่มเหมือนเดิม” ขณะที่นายทักษิณ บอกว่า “คนนราธิวาสก็น่ารักเสมอ ต้อนรับอย่างอบอุ่นในการกลับมารอบ 19 ปี”
ขึ้น ฮ.ไปสุไหงปาดี
จากนั้น นายทักษิณ ออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ จากท่าอากาศยานนราธิวาส ไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนตำบลสุไหงปาดี เพื่อไปยังวัดประชุมชลธารา ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี เพื่อกราบนมัสการพระธรรมวัชรจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และจะพบปะกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำเครือข่ายชาวไทยพุทธ เพื่อหารือถึงการพัฒนาในพื้นที่
ก่อนที่นายทักษิณ และคณะจะเดินทางไปยังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พบปะผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น เพื่อหารือถึงการพัฒนาในพื้นที่ โดยจะมีการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน จากนั้นจะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา ต. ตะลุบัน อ. สายบุรี จ. ปัตตานี พบปะกับผู้นำศาสนา ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้นำท้องถิ่นก่อนออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังจังหวัดยะลา เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมภายใน TK Park จังหวัดยะลา และไปยังบ้านศรียะลาเพื่อพบปะ กับนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเกี่ยวกับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
แก้ปัญหาชายแดนใต้
เวลา 10.34 น.นายทักษิณ และคณะเข้ากราบนมัสการพระธรรมวัชรจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และจะพบปะกับผู้นำท้องถิ่น และผู้นำเครือข่ายชาวไทยพุทธ เพื่อหารือถึงการพัฒนาในพื้นที่ โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงศ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต.และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมด้วย
โดยนายทักษิณ กล่าวว่า ตนลงพื้นที่ครั้งนี้ ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งให้ความสำคัญกับสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงตั้งใจมาดูสถานการณ์ในปัจจุบัน และอยากมาดูมารับฟังด้วยตัวเองว่าเป็นสถานการณ์เป็นอย่างไร รวมถึงมาสานงานที่ทำไว้เมื่อครั้งเป็นนายกฯ เพราะการแก้ไขปัญหาใช้เวลานานมากยังไม่ยุติเสียที มันก็ควรจะยุติได้ในสมัยที่รัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเป็นรัฐบาลเพื่อไทยและลูกสาวตนเป็นนายกรัฐมนตรี
ยึดพระราชดำริร.9
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า อยากเห็นการทำงานร่วมกัน เพราะเชื่อว่าเราอยากเห็นการแก้ปัญหาร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาของประชาชนที่อยู่ในพื้นนี้ เมื่อก่อนนี้ตอนสมัยตนเป็นนายกฯ เราน้อมนำแนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาล 9 เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ซึ่งตนคิดว่ายังเป็นหลักการที่สำคัญ
ทั้งนี้ เข้าถึง คือ เข้าถึงจิตใจว่าพวกเขาคิดอย่างไร เมื่อเข้าถึงแล้วเพื่อให้เขาพูดความจริงก่อนเมื่อความเขาพูดความจริงแล้ว เราก็ต้องเข้าใจเป้าหมายร่วมกัน ร่วมกันพัฒนาในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยตรัสไว้ในการที่จะแก้ปัญหาภาคใต้
“ณ จุดวันนี้ ผมเข้าใจว่ายังเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เลยอยากมาฝากกับน้องๆว่าเราลองหยุดหายใจสักระยะ เรามัวอยู่กับเหตุการณ์ที่เคยมีมา 20 ปีแล้วให้กลับมาดูว่าเราจะเข้าถึงหรือแค่ไหนและเข้าใจมาคิดร่วมกันว่าจะทำให้พี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่อย่างสันติสุข นั่นคือหลักการที่ผมมาที่นี่”นายทักษิณ กล่าว
บอกตั้งใจมาแก้ปัญหา
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าทุกคนมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา ปัญหามีทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้เห็นต่างและฝ่ายข้าราชการ ดีที่สุดคือการพูดคุย ซึ่งตนได้เริ่มต้นการพูดคุยด้วยการที่ตนไปที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้พบกับผู้ที่เห็นต่างทั้งหลายที่อยู่ในมาเลเซีย ได้มีการพูดคุยกัน พวกเขาบอกอยากกลับบ้าน แล้วเมื่อไหร่จะได้กลับ แสดงเห็นว่าทุกฝ่ายพร้อมจะหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน เริ่มต้นชีวิตใหม่
“หลายคนในวันนั้นที่ได้ส่งตัวแทนมาคุยกับผมที่ต่างประเทศก็ได้มาคุยกัน คิดว่าวันนี้แนวทางในการพูดคุย ยังเป็นแนวทางที่ถูกต้องอยู่ เราต้องพูดคุยในระดับระดับท้องถิ่นระดับชาวบ้าน จนถึง ระดับข้าราชการที่ต้องพูดคุยกัน นักการเมืองท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับกลุ่มเห็นต่าง นี่คือสิ่งที่ผมว่าเป็นแนวทางที่อยากเห็น”นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาความล้มเหลวของการบริหารก็คือเศรษฐกิจที่แย่ เมื่อเศรษฐกิจที่แย่ สิ่งที่ตามมาคือยาเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ทั้งชาวพุทธและมุสลิมก็อยากจะขอให้เรื่องยาเสพติดเป็นวาระสำคัญที่เราจะต้องจัดการเพราะในเมื่อคนใช้ยาเสพติดมากก็ไม่มีความยั้งคิดยั้งทำ ก็อยากฝากให้ทุกท่านแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดด้วย.
ทักษิณไปถึงเจอะไอร้อง
เวลา 12.10 น. นายทักษิณ และคณะ เดินทางต่อมายัง โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อพบปะผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เพื่อพูดคุยหารือแนวทางการพัฒนาด้านการศึกษาของประชาชนในพื้นที่ โดยมีนางแวตีเยาะ อาแว ผู้บริหารสถานศึกษา นักเรียน โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ตลอดจนผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ร่วมให้การต้อนรับ
เมื่อเดินทางถึงนายทักษิณ เยี่ยมชมบูทนิทรรศการการจัดการเรียนการสอน และผลงานทางวิชาการที่ได้รับรางวัลของโรงเรียน ก่อนเข้าพบปะพูดคุยหารือร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษา และผู้นำศาสนาในพื้นที่
ดีใจที่ได้กลับปักษ์ใต้
โดยนายทักษิณ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาเห็นเด็กนักเรียนที่นี่ มีการพัฒนาและมีความก้าวหน้าด้านการเรียนอย่างมาก แม้จะมีการเรียนศาสนา แต่ก็เรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ควบคู่กันไปด้วย อีกทั้งยังมีการเน้นทักษะด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งจำเป็นต่อการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และขอฝากครู และผู้บริหารสถานศึกษาให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเรียนการสอนให้แก่เด็ก เพราะเด็กคือผ้าขาว หากได้รับการเอาใจใส่ ส่งเสริมอย่างถูกต้อง ก็จะได้รับสิ่งที่ดี ส่งผลให้พวกเขาได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่จะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะพื้นที่นี้ต้องการคนที่เติบโตมาด้วยความเข้าใจในความเป็นอัตลักษณ์ ภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมของพื้นที่ ดังนั้นการศึกษา จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เด็กและเยาวชนมีความคิด ความอ่านที่ดี
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ก็อยากเห็นการพัฒนา และอยากให้พื้นที่เกิดสันติสุข ขอให้ทุกคนได้ช่วยกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีความตั้งใจอย่างมากที่จะสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นพื้นที่ ตนในฐานะที่ประธานปรึกษาประธานอาเซียน ก็จะสนับสนุนทุกทางเพื่อประโยชน์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากนั้นนายทักษิณ และคณะได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ก่อนเดินทางต่อไปยังโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี.
ระเบิดต้อนรับทักษิณ
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 22 ก.พ.68 ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 23 ก.พ.68 เกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนหลายจุด สำหรับจุดแรก เวลา 20.50 น.วันที่ 22 ก.พ.68 พื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เกิดเหตุระเบิดบริเวณร้านสะดวกซื้อ ห่างจากที่ตั้งฐานปฏิบัติการ ชป.ที่ 301 ประมาณ 300 เมตร เป็นเหตุให้มีชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย และกำลังพลเจ็บ 7 นาย ชาวบ้านเจ็บอีก 4 คน
ขณะที่จุดที่2 ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เกิดเหตุคนร้ายก่อกวนพื้นที่ด้วยการขว้างประทัดยักษ์ ส่วนจุดที่3 คือ เวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 23กพ.เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่สนามบินนราธิวาส ทั้งนี้ เหตุความไม่สงบดังกล่าว เกิดขึ้นก่อน และในเวลาไล่เลี่ยกันกับที่นายทักษิณ เดินทางลงพื้นที่ โดยเฉพาะที่สนามบินนราธิวาส เกิดเหตุขึ้นก่อนที่นายทักษิณ และคณะ จะเดินทางลงเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
วางบึ้มรายสะดวกซื้อเจ็บตายอื้อ
สำหรับเหตุเกิดในพื้นที่อำเภอบันนังสตา นั้น เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.วรวิทย์ ณ นคร สว.(สอบสวน) สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า ขณะที่ ร้อยเวร สายตรวจบริการ และชป.จู่โจม สภ.บันนังสตา ลาดตระเวน ได้เกิดเหตุระเบิดร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ห่างจากที่ตั้งฐานปฏิบัติการ ชป.รพศ.ที่ 301 ประมาณ 300 เมตร (หน้าวัดเนรัญชราวาส) เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 ราย เป็นกำลังพล 7 นาย ราษฎร 4 ราย และมีผู้เสียชีวิตเป็นชาวบ้าน 1 ราย ตลอดจนมีรถยนต์ประชาชนได้รับความเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ ส.ต.ท.เทพพิทักษ์ วิสุทธิ์, ส.ต.ต.อำนาจ โอมณี, ส.ต.ท.คณิศร สุวรรณรัตน์, ร.ต.ท.อานันท์ สุวรรณชาตรี, ส.ต.ท.สหภาพ เกิดทิพย์, ส.ต.ต.ธนกฤต ลิ้มเจริญธรรม, จ.ส.ต.ประสิทธิ์ สุนทรกิจ
ชาวบ้านเสียชีวิต 1 ศพ
ส่วนชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายอิบรอเฮง นิมิ สำหรับชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 รายได้แก่ อินทนน บารูดะ, นายลุกมาน มะรานอ, น.ส.นิซีมะห์ นิมะ และ น.ส.ทิพย์เกสร บาโงยสะนอ ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลบันนังสตา
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นชาย 6 คน ขับรถจักรยานยนต์จุดประทัดที่เตรียมมาแล้วขว้างเข้าไปที่โคนป้ายบอกชื่อหมู่บ้าน ทำให้พระภิกษุและทหารหน่วยรบพิเศษที่อยู่ภายในวัดตกใจ ก่อนจะหลบหนีไป เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่า เป็นประทัดยักษ์ที่วัยรุ่นได้ใช้เทปกาวพันสายไฟสีดำมัดรวมกัน เพื่อให้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิด
“แม้ว”ขออภัยคดีตากใบ
เมื่อเวลา 13.00 น.ที่โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กรณีเหตุการณ์ตากใบที่ยังมีความรู้สึกคาใจของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคดีสิ้นสุดลง หมดอายุความ 20 ปี โดยไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ว่า
“เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมาก ถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย”
ลั่นไม่เคยกลัวระเบิด
นายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุลอบวางระเบิดในรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ภายในสนามบินบ้านทอน ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ก่อนลงพื้นที่ที่อ.บันนังสตา จ.ยะลา มองว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นการต้อนรับการกลับมาครั้งนี้หรือไม่ ว่า “เป็นการเเสดงเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น บางคนอาจทำให้ผมตกใจ เเต่ผมเป็นคนใจแข็ง ถูกลอบฆ่ามา 4 ครั้งก็ยังเฉยๆ ไม่เป็นไร แค่นี้ผมไม่กลัว ใครจะต้อนรับวิธีไหน ผมรับได้หมด”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี