ตำรวจ “ไทย-กัมพูชา” บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปักหลักในตึกใหญ่กลางปอยเปต พาต่างชาติออกมาได้กว่า215 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทยมากถึง 109 คน
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เช้าวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีรับรายงานจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐพันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งตะวันออกบริเวณขอบชายแดน จ.สระแก้วว่า รัฐบาลไทยขอความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยพล.ต.ต.จุม เรียง รอง ผบ.ตร .กัมพูชา จเรตำรวจได้ประสานงานกับผู้บัญชาการตำรวจของกัมพูชา นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ซึ่งอยู่ใน Compound พลาซ่า โดยสายข่าวจากประเทศไทยระบุว่ามีคนไทยส่วนหนึ่งถูกหลอกไปทำงาน สถานที่แห่งนี้มีคนจีนเช่าทำธุรกิจพนันออนไลน์และหลอกลวงออนไลน์ ในกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามบริเวณด่านคลองลึกตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ที่ดินและอาคารดังกล่าวถูกระบุว่า เป็นของผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของ จ.บันเตียเมียนเจย
นายจิรายุกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่นำชาวต่างชาติออกมารวม 215 คน ในจำนวนนี้มีคนไทย 109 คน เป็นหญิงไทย 54 คน นอกจากนี้ ยังมีชาวไต้หวัน 5 คน ปากีสถาน 50 คน อินโดนีเซีย 3 คน อินเดีย 48 คน อยู่ระหว่างการสอบปากคำและบันทึกประวัติของฝั่งกัมพูชา ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลไทยขอความร่วมมือแก้ปัญหาของทั้งสองประเทศ โดยจเรตำรวจไทยเข้าพบรองผบ.ตร. กัมพูชา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
“ฝ่ายข่าวความมั่นคงระบุ นับเป็นการนำคนไทยออกมาจำนวนมาก จากตึกที่คาดว่าทำธุรกิจออนไลน์ครั้งใหญ่ที่สุดของทั้งสองประเทศ และจะระดมกวาดล้างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยทูตฝ่าย ตร.และฝ่ายกงสุลของไทยจะเดินทางไปชายแดนบริเวณด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามความคืบหน้า และดำเนินการเอกสาร บันทึกประวัติและคัดกรองเพื่อสอบปากคำเบื้องต้นว่าบุคคลเหล่านี้เป็นเหยื่อหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการ”นายจิรายุกล่าว
และว่า นายกฯกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับคนไทย และขอให้ตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกมิติ รวมทั้งให้เตรียมการประสานสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ที่มีกลุ่มคนเหล่านี้ที่ถูกระบุ เพื่อเตรียมความพร้อมในกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอาคารสูงในเมืองชเวโก๊กโก่ ตรงข้ามบ้านวังแก้ว ตำบลแม่ปะ อ.แม่สอด จังหวัดตาก ยังคงมีการก่อสร้างอยู่อย่างเห็นได้ชัด เมื่อมองจากฝั่งไทยในจุดใกล้ที่สุด โดยมีการใช้อุปกรณ์การก่อสร้างทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กในการทำงานในอาคารและชั้นบนของอาคาร โดยมีเสียงเครื่องปั่นไฟฟ้าดังอยู่
สำหรับบรรยากาศวันที่สะพานมิตรภาพไทย เมียนมา แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอดดูเงียบลง หลังมีการส่งเหยื่อชาวต่างชาติ 621 คน จากฝั่งเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา มายังเขตไทย เพื่อนำขึ้นเครื่องบินที่จัดไว้โดยทางการจีนมารับที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด เป็นเวลา 3 วัน 16 เที่ยวบินสิ้นสุดลงตามข้อตกลง 3 ฝ่าย ไทย เมียนมา จีน และจะเริ่มดำเนินการอีกครั้งหลังจากที่สาม ประเทศคุยกันนับจากนี้อีกประมาณ 6 วัน ขณะที่เหยื่อชาวต่างชาติในฝั่งเมียวดี อยู่ในพื้นที่บีเอฟ.อีกหลายแห่งทั้งหมดกว่า 2,000 คน และในพื้นที่กะเหรี่ยงดีเคบีเอ.อีก 405คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี