กทม. เยือนนครซัวเถา กระชับความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย-จีน แสวงหาความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด การแพทย์-สาธารณสุข เศรษฐกิจเมือง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายต่อศักดิ์โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพลรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และนายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางเยือนนครซัวเถามณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ 2568 โดยได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายเหวิน จ้านปิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเทศบาลนครซัวเถา เพื่อกระชับความสัมพันธ์และแสวงหาความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกรุงเทพมหานครกับนครซัวเถา และครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ณ อาคารที่ทำการพรรคฯ นครซัวเถา

ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าวแสดงความยินในโอกาสที่เข้าพบปะ และกล่าวถึงความสัมพันธ์ดุจญาติมิตรระหว่างกรุงเทพมหานครกับนครซัวเถา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนมากที่ได้เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทยและกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังได้เสนอให้มีความร่วมมือใน 4 ด้าน ได้แก่ การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อดึงดูดนักลงทุน ความร่วมมือด้านพลังงานสะอาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของนครซัวเถา การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนจีน เพื่อพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร และความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรมที่จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองของกรุงเทพมหานคร อาทิ เครื่องนุ่งห่ม ของเล่น เป็นต้น

โอกาสนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ร่วมพิธีปลูกต้นไทรฉลองครบรอบความสัมพันธ์ กทม.-ซัวเถา โดยมี นายเฉิน เทา นายกเทศมนตรีนครซัวเถา พร้อมด้วยผู้บริหารของทั้งสองเมือง ร่วมปลูกต้นไทรที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง และมั่นคง เปรียบดั่งความสัมพันธ์ระหว่างสองเมือง จากนั้นคณะผู้แทนกรุงเทพมหานครเดินทางเยือนโรงพยาบาลการแพทย์แผนจีนนครซัวเถา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับประเทศที่มีชื่อเสียงในการผสมผสานศาสตร์แพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้เสนอความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลการแพทย์แผนจีนนครซัวเถากับโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครในการเปิดศูนย์การแพทย์แผนจีน และการพัฒนาองค์ความรู้ด้านแพทย์แผนจีน รวมถึงการเปิดหลักสูตรการแพทย์แผนตะวันออก ณ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

จากนั้นคณะผู้แทนกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สำรวจการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลมบริเวณชายฝั่งทะเลตอนใต้ของนครซัวเถา และศึกษาการดำเนินโครงการ “Huaneng Shantou Lemen (II)”ซึ่งประกอบด้วย กังหันลมนอกชายฝั่ง 54 ตัว สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้ 2,000 ล้านกิโลวัตต์ต่อปีถือเป็นการปูทางไปสู่การพัฒนาพลังงานลมทางทะเลที่ยั่งยืนของจีน ซึ่งกรุงเทพมหานครสามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน ซึ่งมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่คล้ายคลึงกัน

นอกจากนี้ คณะผู้แทนฯ เดินทางเยือนศูนย์บัญชาการบริหารจัดการเมืองดิจิทัลนครซัวเถา และศึกษาแพลตฟอร์มการบริหารจัดการเมืองโดยการใช้กฎหมายบูรณาการร่วมกับทรัพยากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อช่วยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และจัดการเรื่องร้องเรียนในเชิงรุกแบบ real-time โดยมีระบบที่น่าสนใจ เช่น การจัดระเบียบ bike sharing การค้นหาที่จอดรถทั้งภายในอาคารและพื้นที่สาธารณะ การแจ้งเตือนสาธารณภัยเพื่อให้มีการจัดการและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ได้เดินทางต่อไปยังเขตเฉิงไห่ของนครซัวเถา เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของชาวจีนโพ้นทะเล ในช่วงทศวรรษที่ 1800 ซึ่งชาวจีนกว่าหนึ่งแสนคนได้อพยพจากบริเวณนี้ไปยังสยาม พร้อมเข้าสักการะอนุสรณ์สถานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานฉลองพระองค์และพระมาลา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2327 โดยพระญาติที่อาศัยในบริเวณนี้ และเดินทางต่อไปยังที่ทำการเขตเฉิงไห่ เพื่อหารือความร่วมมือและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมกับเขตเฉิงไห่