ม็อบอ้อย3จว.ขยับ
ทวงเงินตัดอ้อยสด
ลดฝุ่น120บาท/ตัน
2ปียังไม่ได้สักบาท
“พิชัย” รับม็อบชาวนา ยันรัฐบาลช่วยเต็มที่ เตรียมชง 3 มาตรการดันราคาเข้านบข. 26 กุมภาพันธ์นี้ เกษตรกรได้เงินเพิ่มแน่ตันละ 1,000-1,500 บาท ส่วนการชดเชยรายได้หรือประกันรายได้ทำไม่ได้เหตุขัดมติ ครม. และ นบข. แจงยิบชาวนาจะได้เงินค่าข้าวความชื้น 15% บวกค่าฝากเก็บรวมตันละ 9,500-10,000 บาท ขณะที่ ชาวไร่อ้อยหลายจังหวัดขยับ อาทิ พิษณุโลก-พิจิตร-บุรีรัมย์ รวมตัวบุกศาลากลาง ทวงถามเงินช่วยเหลือ จากนโยบาย ตัดอ้อยสดลดเผาไร่อ้อย ลดฝุ่น PM 2.5 ที่รัฐบาลรับปากจะให้ตันละ120 บาท 2 ปีแล้วยังไม่ได้สักบาท
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ที่บริเวณหน้ากระทรวงพาณิชย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาพบกลุ่มชาวนาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาประมาณ 100 คน ที่มาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ
“พิชัย”โร่รับหนังสือม็อบชาวนา
นายพิชัยกล่าวว่า นายกฯเป็นห่วงสถานการณ์ มอบให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลปัญหาราคาข้าว ซึ่งรัฐบาลเตรียมมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยจะสนับสนุนราคาข้าวให้เกษตรกรได้รับเงินเพิ่มขึ้นตันละ 1,000 บาท และหากเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางของตนจะได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเป็นตันละ 1,500 บาท โดยวันที่ 26 กุมภาพันธ์ กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ
ย้ำ3มาตรการ-รบ.จ่ายเพิ่ม1-1.5พัน/ตัน
ทั้งนี้ ข้อสรุปมาตรการช่วยเหลือนั้นจะดำเนิน 3 มาตรการ โดยมาตรการหลัก จะช่วยให้ชาวนาได้เงินเพิ่มตันละ 1,000-1,500 บาทคือ การเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางของตนจะได้ตันละ 1,500 บาท และ 1,000 บาท หากฝากเก็บไว้กับสหกรณ์ เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน ส่วนอีก 2 มาตรการ จะช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการโรงสี 6% ต้องเก็บสต๊อกไว้ 2-6 เดือน เป้าหมาย 2 ล้านตัน และเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือก โดยรัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการ 500 บาทต่อตัน เป้าหมาย 3 แสนตัน รวมทั้งจะมีมาตรการเสริมอื่น เช่น กระตุ้นการบริโภคข้าว ที่จะร่วมมือกับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุง ผลิตข้าวถุงราคาประหยัดขายผ่านห้างโมเดิร์นเทรด การเร่งผลักดันการส่งออกข้าว และการหาตลาดข้าว
ปิดทางเงินชดเชย-ประกันรายได้
“สำหรับเรื่องเงินชดเชยรายได้ หรือการประกันรายได้ตามข้อเรียกร้องของเกษตรกร ยืนยันว่า ทำไม่ได้ เพราะขัดมติ ครม.วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 และมตินบข.วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ที่กำหนดการจัดทำมาตรการ โครงการ เพื่อสนับสนุน หรือให้ความช่วยเหลือเกษตรกรให้หลีกเลี่ยงการดำเนินการลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตรโดยตรงแก่เกษตรกร”นายพิชัยระบุ
ลุ้น!มตินบข.26กพ.แก้ราคาข้าวตก
ด้านนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลช่วยเหลือข้าวนาปรังอย่างเป็นรูปธรรม โดยข้าวที่มีความชื้น 15% จะได้รับการประกันราคาที่ 8,500 บาทต่อตัน พร้อมเงินสนับสนุนค่าฝากเก็บอีก 1,000 บาท รวมเป็น 9,500 บาทต่อตัน นอกจากนี้ พณ.เตรียมเปิดจุดรับซื้อเพิ่มเติม โดยให้ราคานำตลาดอีก 300 บาท เพื่อลดภาระชาวนา และมีมาตรการชดเชยดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นให้มีการซื้อข้าวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ราคาข้าวแห้งขยับขึ้นถึง 9,500 บาทต่อตัน ตามที่ชาวนาเรียกร้อง ในส่วนชาวนาที่เกี่ยวข้าวไปแล้วและกังวลว่าจะไม่ได้รับการชดเชย กระทรวงพาณิชย์กำลังหาวิธีตรวจสอบเพื่อเสนอของบจากกระทรวงการคลัง โดยกระบวนการต้องรอบคอบโปร่งใส ใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานการประชุม โดยคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ด้านการตลาด เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือราคาข้าวนาปรังปี 2568 ให้ที่ประชุมพิจารณา
ชาวไร่อ้อยทวงเงินชดเชยลดเผาลดฝุ่น
วันเดียวกัน ที่หน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก มีตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยพิษณุโลก –พิจิตรนำโดย นายเสกสรร คล้ายท่าโรง นายกสมาคมชาวไร้อ้อยพิษณุโลก-พิจิตรพร้อมตัวแทนประมาณ 60 คนเดินทางมายื่นหนังสือให้ช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2566/2567 และปี 2567/2568 รัฐบาลมีนโยบายลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างเคร่งครัด โดยเน้นภาคการเกษตรให้ลดการเผา มีนายอธิปไตย ไกรราช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิษณุโลกเป็นผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มารับฟังปัญหาและรับเรื่องร้องเรียน
นายเสกสรร คล้ายท่าโรง นายกสมาคมชาวไร้อ้อยพิษณุโลก-พิจิตรเผยว่า วันนี้มาเป็นตัวแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร ยื่นหนังสือกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกกรณีภาครัฐรับปากกับพวกตนว่าถ้าพวกเราตัดอ้อยสด ไม่เผาเพื่อลดฝุ่น pm 2.5 แล้วจะได้เงินตันละ 120 บาทตามที่รัฐรับปากไว้ แต่ผ่านมาสองปีแล้ว ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ จึงมาขอวิงวอนภาครัฐให้เห็นใจชาวไร่อ้อย เพราะการตัดอ้อยสดมีต้นทุนสูง ใช้เวลานาน เราพยายามทำตามนโยบายรัฐแล้ว ให้ความร่วมมืออย่างดี
แกนนำฮึ่ม!รบ.ไม่ขยับรวมตัวเข้ากรุง
“ปัจจุบันโรงงานน้ำตาลพิษณุโลก 94% เป็นอ้อยเผาและมีอ้อยตัดสด แค่ 6% ซึ่งสมาชิกเกษตรกรไร่อ้อยเรา 6,000 ราย สนองนโยบายขอให้ภาครัฐเห็นใจชาวไร่อ้อยด้วย การตัดอ้อยสดมีต้นทุนสูง ตอนนี้ราคาอ้อยอยู่ที่ตันละ 1,100 บาท จากปีที่ผ่านมาอ้อยยังราคาตันละ 1,450 บาท แต่ปีนี้ราคาอ้อยตกต่ำทำให้ต้นทุนเราสูงมากขึ้น จึงมาร้องทุกข์กับผู้ว่าฯพิษณุโลกให้ไปพูดในรัฐสภาว่าเกษตรกรเดือดร้อนอย่างไร และเราจะดู อีกช่วงเวลาหนึ่ง ถ้าภาครัฐไม่ขยับหรือไม่มีข่าวดีๆให้ชาวไร่อ้อย พวกเราก็จะขอเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปที่กระทรวง”นายเสกสรรกล่าว
ต่อมานายพงษ์มนู ทองหนัก ส.ส.พิษณุโลก เขต 3 ได้เดินทางมารับฟังปัญหาจากเกษตรกร ก่อนต่อสายตรงโทรศัพท์หา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรมยืนยันให้ความช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยทำให้ผู้ชุมนุมพอใจ แยกย้ายกลับภูมิลำเนา โดยระบุว่าเราได้นำเรื่องนี้เข้าประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สรุปเสร็จส่งให้ครม.พิจารณาแล้วตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ทั้งอ้อยสดและใบรวมกัน 120 บาท/ตัน
ไร่อ้อยบุรีรัมย์จี้รบ.จ่ายค่าตัดอ้อยสด
เช่นเดียวกับ ที่หน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้บริหารสมาคมชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์และเกษตรกรชาวไร่อ้อยประมาณ 100 คน นำโดย นายดร สีโสภา นายกสมาคมชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ขอให้ช่วยเหลือชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิต ปี 2566/2567 และปี 2567/2568 โดยนายเกรียงศักดิ์ สมจิต รองผู้ว่าฯบุรีรัมย์มารับหนังสือ พร้อมมอบนายประสงค์ ผลส่ง อุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ดำเนินการต่อไป โดยนายดรกล่าวว่า มาถามความคืบหน้าเงินช่วยเหลือเกษตรกรตัดอ้อยสดตันละ120 บาทจากรัฐบาล ตอนนี้สมาคมชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ร่วมกับโรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์รณรงค์ให้ชาวไร่อ้อยลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ในบุรีรัมย์ให้มากที่สุด จึงอยากถามความชัดเจนเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลเคยบอกไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี