24 ก.พ. 2568 เว็บไซต์ https://sdnthailand.com/ เผยแพร่ข่าว เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาสังฆะเพื่อสังคม 9 ภาค ห่วงใยประเทศวอนรัฐบาล “ขอให้สร้างสังคม เศรษฐกิจให้เติมโตด้วยปัญญาที่เป็นจุดแข็งของประเทศ หยุดสร้างฐานเศรษฐกิจด้วยอบายมุข เพราะจะนำประเทศไทยไปสู่ความฉิบหาย” เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2568 ระบุว่า
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ห้องประชุมศาลาปฏิบัติธรรม วัดทับมา อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนา สังฆะเพื่อสังคม 9 ภาค โดยมีผู้แทนจากแต่ละภาค ได้แก่ พระครูสุวรรณโพธิวรธรรม, พระครูปริยัติสุวัฒนาภรณ์, ดร., พระครูโพธิวีรคุณ, พระอธิการโสภณ ปิยธมฺโม, ดร., พระครูกิตติปริยัติคุณ, พระมหาบวร ปวรธมฺโม, พระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา, พระครูอุดมสุวรรณสถิต และพระสงฆ์นักพัฒนาอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานพัฒนาสังคมมากว่า 30 ปี ได้ประชุมหารือเพื่อทบทวนกระบวนการทำงานและกำหนดทิศทางในอนาคตตามเป้าหมาย “ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ปี 2560 และ ปี 2566” ซึ่งมีวิสัยทัศน์ว่า “พระแข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุข”
โดยเฉพาะประเด็น “ชุมชนเป็นสุข” ได้มีการยกประเด็นนโยบายรัฐบาลขึ้นมาระดมความคิดเห็น ท้ายสุดที่ประชุม ได้แสดงความห่วงใยต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสังคมและประเทศชาติ จากนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลที่เกี่ยวเนื่องกับอบายมุข จึงได้แสดงความเห็น และขอให้ข้อมูล จุดยืน แต่ละประเด็น ดังนี้
1. พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex)
ตามที่รัฐบาลได้ผลักดันเข้าสภาแล้วนั้น ส่วนประกอบสำคัญใน พ.ร.บ.ฉบับนี้คือ “กาสิโน” ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ประเทศไทยสามารถเปิด “กาสิโน” หรือแหล่งพนันอย่างถูกกฎหมายหลายแห่ง หลายขนาด ในหลายพื้นที่ ไม่มีขีดจำกัด สามารถอนุมัติด้วยอำนาจของฝ่ายการเมืองไม่ได้ฟังเสียงประชาชน
ข้อมูลประสบการณ์ทั่วโลก “กาสิโน” เป็นพื้นที่เชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมายและอาชญากรรมหลากหลายระดับ ทั้งข้ามชาติ ภายในประเทศ และท้องถิ่น ก่อเกิดการฉ้อโกงทุจริตคอรัปชัน การเปิดให้มี “กาสิโน” ถูกกฎหมายเท่ากับเปิดพื้นที่ให้กลุ่มอาชญากรรมได้ฟอกเงิน เป็นเหตุแห่งกระบวนการเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจ การเงินธนาคารของประเทศ ในขณะเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุชัดเจนว่า “การพนันไม่นับรวมเป็นรายได้ประชาชาติ” แล่ะคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ชี้ข้อมูลต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีปัญหาทั้งในแง่หลักการและวัตถุประสงค์ที่ไม่ชัดเจน ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล
ในด้านสุขภาพนั้น การพนัน ถือเป็นสิ่งเสพติดประเภทหนึ่งเรียกว่า “โรคติดพนัน” เกิดปัญหาการกระตุ้นทางจิต ทำให้เกิดภาวะติดพนัน จากสถิติพบว่า นักพนัน 10 คนจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพที่ต้องเข้าบำบัดรักษาถึง 2 คน
ในทางพระพุทธศาสนา ได้บรรจุคำสอนไว้อย่างชัดเจนว่า “การพนัน” คือ หนทางแห่งความฉิบหาย เสื่อม พินาศ ย่อยยับ ของบุคคลผู้เล่น คนรอบข้าง พื้นที่ ท้องถิ่น จึงมีคำพูดที่ว่า “โจรปล้นบ้าน 10 ครั้งยังไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว ไฟไหม้ 10 ครั้งยังไม่เท่ามีคนในบ้านติดการพนัน” เป็นคำกล่าวที่คนโบราณว่าไว้ถึงอันตรายจากการพนัน ข้อมูลประจักษ์ คนร่ำรวย ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามไปเล่นพนัน ติดพนัน จากคนมีทรัพย์สินมากมายกลายมาเป็นคนยากจนสินเนื้อประดาตัว
2. การจะเปิดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย
ภายใต้ พระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช และร่างปรับปรุง ร่างพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. คาดว่า “มหาดไทย” เตรียมชงร่าง พ.ร.บ.การพนันฉบับแก้ไขเข้า ครม. 25 ก.พ. นี้ หลังจบขั้นตอนรับฟังความเห็นคนส่วนใหญ่ “เห็นด้วย” เพิ่มบทลงโทษคุมบ่อน พนันออนไลน์ ผู้เล่น ผู้จัด ยันคนคุม ระบบโทษสูงสุด 7 – 12 ปี
คำอธิบายหลักการหรือประเด็นสำคัญของร่างกฎหมายหรือกฎหมายที่นำมารับฟังความคิดเห็น
(1) กำหนดห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มี หรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันออนไลน์ในการเล่นอันระบุไว้ในบัญชี ก. และบัญชี ข. เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
(2) กำหนดโทษของผู้จัดให้มีการเล่นการพนันและพนันออนไลน์ หรือผู้ควบคุมระบบ และผู้เข้าเล่นการพนันและพนันออนไลน์ให้เหมาะสมแก่สภาพและความร้ายแรงแห่งความผิด
(3) กำหนดอำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 เพื่อบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด
ผู้เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย
เจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นผู้ประกอบการ ได้แก่ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจัดให้มีการเล่นการพนัน/ประชาชนผู้เข้าเล่นการพนัน โดยได้อ้างเหตุผลความจำเป็นของการให้มีระบบอนุญาต ระบบคณะกรรมการ หรือ การกำหนดโทษอาญา รวมทั้งหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ
เจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยการพนันนั้น ตราขึ้นเพื่อควบคุมและรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม โดยกำหนดให้มีการควบคุม ตรวจสอบ การอนุญาต และการโฆษณาการจัดให้มีการเล่นการพนัน รวมถึงกำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด การจัดให้มีการเล่นการพนันจึงมีความจำเป็นต้องมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ดังนั้น ระบบการอนุญาตจึงมีความจำเป็นเพื่อควบคุมและตรวจสอบผู้ขออนุญาตให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม และคุ้มครองประชาชน จึงต้องกำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิดด้วยโทษทางอาญาที่มีอัตราโทษสูง เพื่อให้ผู้กระทำผิดเกิดความเกรงกลัว
ครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาสังฆะเพื่อสังคม ไม่เห็นด้วย กับการที่รัฐบาลจะเปิด อนุญาตให้ประชาชนสามารถขออนุญาตเปิด และเล่นพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เพราะการพนันออนไลน์เป็นการเปิดช่องทางให้เกิดนักพนันที่มากขึ้นนับตั้งแต่เยาวชน ถึงประชาชนทั่วไป จะเป็นเหตุเพิ่มคนติดพนัน เหตุอาชญากรรม ความรุ่นแรง ความล่มสลายของครอบครัว ความอ่อนแอของชุมชน และคนไทยโดยรวม ทั้งนี้ ไม่เชื่อมันในกระบวนการกำกับควบคุม ของกลไกตามที่กล่าว และเชื่อมั่นในหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา “อบายมุข คือ ปากแห่งอบาย ปากแห่งความเสื่อม ช่องทางแห่งความฉิบหาย พินาศ ” จึงขอให้รัฐบาลได้มีการทบทวนอย่างรอบด้าน
3. ร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ…..
เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาสังฆะเพื่อสังคม เห็นด้วยกับหลักการ การควบคุม เนื้อหาสำคัญใน พ.ร.บ. นี้
1.มุ่งเน้นในการป้องกันและเยาวชน
2.ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เป็นทางเลือกให้ประชาชนอย่างเท่าเทียม
3.มีคณะกรรมการที่มาจากภาคประชาชนเพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนคุ้มครองผู้บริโภค และประโยชน์สาธารณะ
4. การที่นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ทบทวน “การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5 วันพระใหญ่ และเวลาขาย”
“แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำการศึกษาและทบทวนกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอออล์ในวันพระใหญ่ และการห้ามขายในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ภายหลังได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจว่ากฎหมายเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มีการส่งเสริมการท่องเที่ยว”
ข้อเท็จจริงที่นักวิชาการสรุปไว้ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สินค้าปกติ ดื่มแล้วเมาทำให้ขาดสติ เป็นสาเหตุของปัญหาสังคม การดื่มแล้วขับ การทำร้ายร่างกายทะเลาะวิวาท ซึ่งจะเห็นว่ามีเยอะมากในสังคมปัจจุบัน นำไปสู่การใช้สารเสพติดชนิดอื่น รวมถึงเรื่องการพนันด้วย ซึ่งแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินบอกว่า เคสที่ได้รับผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์จะมาที่ห้องฉุกเฉินเยอะโดยเฉพาะช่วงหลัง ปิดสถานบันเทิง ทำให้เกิดภาระงานเพิ่มขึ้น และเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ทำให้มีการจำกัดเวลาขายเพื่อป้องกันปัญหาจากการดื่มแอลกอฮอล์ในบางช่วงเวลา ประสบการณ์ในต่างประเทศก็มี โดยมีทั้งประเทศที่เคยขาย ดื่มได้ตลอดเวลา สุดท้ายต้องออกมาตรการจำกัดการขาย กับประเทศที่เคยมีการจำกัดการขาย ต่อมาขอเปิดขายแล้วสุดท้ายก็ต้องกลับมาใช้มาตรการควบคุม จำกัดการขายอีก เช่น ฝั่งยุโรป และสหรัฐอเมริกาในบางรัฐห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันอาทิตย์
ดังนั้น รัฐบาลต้องไม่รีบร้อน ต้องมีการศึกษาอย่างรอบด้าน จริงๆ เป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลคืออะไร เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายแบบ ที่ควรทำคือนโยบายที่สร้างผลกระทบน้อยที่สุด และไม่ใช่แบบที่เอาตัวเลขรายได้ที่ได้มาลบจากผลกระทบสุขภาพในด้านต่างๆ แล้วเห็นว่ายังพอมีกำไรก็เลือกทำ แต่สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือต้องทำนโยบายที่มีผลกระทบกับสุขภาพน้อยที่สุด และที่จริง คนต่างชาติมาเที่ยวไทยเพราะต้องการดูบ้านเมือง วัฒนธรรมไทย ไม่ใช่หวังเข้ามาดื่มแอลกอฮอล์ แล้วที่จริงวันพระใหญ่ก็มีแค่ 4 วันใน 356 วัน เมื่อเทียบกับบางประเทศเขาห้ามขายถึง 52 วันใน 1 ปี ถ้ามองในมุมนี้ ถือว่าประเทศไทยมีวัน เวลาที่ขายได้ สร้างเศรษฐกิจได้ หลายวันอยู่แล้ว แล้วการส่งเสริมงดขายเหล้าในวันพระก็เป็นวัฒนธรรมพื้นฐาน”
เครือข่ายพระสงฆ์ฯ จึงไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะแก้กฎหมายยกเลิกการห้ามขายเหล้าในวันพระใหญ่ และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตลอดเวลา เพราะผลที่ได้ไม่คุ้มกับผลเสียตามหลักวิชาการที่มีอยู่แล้ว และตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา นี่คือ “นโยบายอบายมุข”
ดังนั้น เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาสังฆะเพื่อสังคม 9 ภาค ขอเจริญพร วอนเรียกร้อง ดังนี้
1. ขอให้รัฐบาล และฝ่ายค้าน หยุดนโยบายที่เข้าใจว่า จะสร้างรายได้ ความเจริญเติมโตทางเศรษฐกิจ ของประเทศจากสร้างอบายมุขต่าง ๆ ตามบ้านเมือง เพราะที่สุดแล้วตามสัจธรรมคำสอนในพระศาสนามันคือ ความฉิบหาย ความพินาศของประเทศและประชาชน
2. ขอเรียกร้องรัฐบาล พร้อมฝ่ายค้าน ให้มีการทบทวนนโยบายต่าง ๆ ตามที่ระบุข้างต้นนั้น ด้วยการอิงหลักวิชาการ และประสบการณ์ต่างๆ ทั้งในการบริหารประเทศที่ผ่านมา และประสบการณ์จากต่างประเทศอีกมากมายในการประกอบพิจารณาด้วยจิตใจที่ดีงามและความปรารถนาดีต่อประเทศไทยและประชาชน ลูกหลาน
3. ขอเรียกร้องรัฐบาล และฝ่ายค้าน ให้มีการเสนอนโยบายพัฒนาจากจุดแข็งของประเทศ คือ สังคมเกษตรกร ข้าว มันสำปะหลัง พืช ผัก ไก่ ปลา ทำอย่างไรต้นทุนถึงจะน้อย การผลิตมีคุณภาพ มีการพัฒนาการตลาด พัฒนาเทคโนโลยี มีโรงงานรองรับ และโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำอย่างไรถึงจะอยู่ได้ การค้าภายในประเทศ และต่างประเทศ อีกมากมายที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างความเจริญทางเศรษฐกิจ และรายได้ให้ประเทศ
ขอบคุณเรื่องจาก
https://blog.sdnthailand.com/36106.html
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี