"ผกก.ตม.กาญจนบุรี" นำทีมชุดสืบสวนฯบุกห้องเช่าบ้านเป้าหมายจุดพักคอยแรงงานต่างด้าว เจอจะๆ กำลังทยอยขึ้นกระบะทึบก่อนรวบได้ 22 คน พร้อมคนนำพาชาวไทย 1 ราย ผลพลอยจากการขยายผลหลังจากจับกุมมาแล้วหลายคดี
วันนี้ (25 ก.พ.68) พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า จากนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ภาณุมาส บุญญลักษณ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 มีนโยบายและคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามขบวนการลักลอบกระทำความผิดกฎหมายทุกชนิดโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีเป็น 1 ในจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาระยะทาง 371 กิโลเมตร มีช่องทางเข้าออกตามธารรมชาติ 43 ช่องทาง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกาญจนบุรีได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จับกุมขบวนการดังกล่าวได้หลายคดีผู้ต้องหาจำนวนมาก
พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.68 ตนได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเข้ามาในเขตพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรีโดยใช้บ้านเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 5 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นจุดพักคอยรอรถมารับมุ่งหน้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นใน หลังจากได้รับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเป้าหมายที่เป็นจุดพักคอย
ไปถึงพบกลุ่มแรงงานทั้งชายหญิงจำนวนมากกำลังทยอยเดินขึ้นไปหลบซ่อนตัวบนรถยนต์กระบะหลังคาทึบยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน จังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณนำกำลังเข้าปิดล้อม และสามารถจับกุมตัวแรงงานต่างด้าวได้ทั้งหมด จำนวน 18 คน เป็นชาย 17 คน หญิง 1 คน โดยมีนายบุญลือ (ขอสวนนามสกุล) อายุ 54 ปี คนขับซึ่งเป็นผู้นำพาชาวไทยถูกจับกุมในที่เกิดเหตุด้วย
ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังนำกลุ่มผู้ต้องหาไปสอบสวนที่ ตม.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่สังเกตพบห้องเช่าที่อยู่ใกล้กัน ดูเงียบผิดปกติอีกทั้งประตูห้องเช่าถูกล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่จึงเคาะประตูพร้อมตะโกนเรียกผู้ที่อยู่ภายในเปิดประตูเพื่อขอตรวจสอบ และไม่นานนักผู้ที่อยู่ภายในห้องเช่าจึงยอมเปิดประตูออกมาปรากฎเป็นหญิงสาวที่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 4 ราย รวมแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมตัวได้ 22 คน เป็นชาย 17 คน หญิง 5 คน และผู้นำพาชาวไทยอีก 1 คน โดยแรงงานทั้ง 22 คนไม่มีเอกสารการได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนายบุญลือ ผู้นำพาชาวไทยถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน"ช่วยเหลือหรือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักร พ้นจากการจับกุม" ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นชาวเมียนมาทั้ง 22 คนถูกดำเนินคดีตาม พรบ.คนเข้าเมืองในฐานความผิด "เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต"พร้อมตรวจยึดรถยนต์กระบะหลังคาทึบที่ใช้เป็นพาหนะในการกระทำผิดเอาไว้เป็นของกลาง
พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้บังคับใช้ 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึง 3 มาตรการเข้ม ตรวจคัดกรองคนต่างด้าว สกัดกั้นป้องกันเหตุ และดำเนินคดีสืบสวนขยายผล ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 นั้น ตม.จว.กาญจนบุรี มีผลการดำเนินการตามนโยบาย ตั้งแต่วันที่ 1 - 24 ก.พ.2568 ผลการดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ดังนี้ 1.การสุ่มตรวจการขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรไทย จำนวน 78 ราย 2.ดำเนินการตาม ม.38 จำนวน 98 ราย 3.สำรวจจัดทำข้อมูลท้องถิ่นฯ จำนวน 262 ราย ผลการตรวจคัดกรองคนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมาย รวม 485 ราย
สัญชาติ 5 อันดับสูงสุด ได้แก่ สัญชาติเมียนมา 330 ราย ฝรั่งเศส 34 ราย มาเลเซีย 29 ราย ญี่ปุ่น 36 รายเยอรมนี 10 ราย และอื่นๆ จำนวน 100 ราย ผลการจับกุมผู้กระทำความผิดมีดังนี้ 1.ช่วยเหลือ/ซ่อนเร้น 13 คดี ผู้ต้องหา14 ราย 2.หลบหนีเข้าเมืองฯ 12 คดี ผู้ต้องหา 316 ราย 3.การอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) 1 คดี 1 ราย 4.ใช้หนังสือเดินทางปลอม 5 คดี ผู้ต้องหา 5 ราย 5.จับกุมยาเสพติด (เฮโรอีน 5.25 กก.) 1 คดี ผู้ต้องหา 3 ราย 6.พยายามนำออกสินค้าโดยไม่ผ่านศุลกากร 1 คดี ผู้ต้องหา 3 ราย โดยมีคดีที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล จำนวน 2 คดี
ทั้งนี้ พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี ได้กำชับการปฏิบัติ ควบคุมสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.กาญจนบุรี ปฏิบัติตาม 7 มาตรการ ของ ผบ.ตร., 3 มาตรการของ ผบช.สตม. อย่างเข้มข้น และนโยบายของ ผบก.ตม.3 ให้ปฏิบัติการเข้มงวด สกัดกั้น ปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรม “Seal Stop Safe” ของพื้นที่ บก.ตม.3 ทั้งด่านความมั่นคงพื้นที่ชั้นใน และตามแนวชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี
โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้กวดขันตามมาตรการ อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกระทำความผิดทุกรูปแบบ และได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมดำเนินการสืบสวนขยายผล กรณีมีเครือข่ายลักลอบขนคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายด้วยตนเอง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี