ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังคงเตือนประชาชนและชาวประมงในเรื่อง คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่างอีก 1 วันในวันนี้ ในขณะเดียวกันจังหวัดสงขลาไม่มีฝนตก แต่ในทะเลยังมีคลื่นลมแรง 2-3 เมตร ชาวประมงพื้นบ้านยังคงหยุดออกเรือ เรือทุกลำจอดเรียงรายอยู่บนชายหาดขึ้นมาจนติดถนน เพื่อรอเวลาให้คลื่นลดความรุนแรงลง
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้รายงานสภาพอากาศในวันนี้ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทย ตอนล่างยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกเริ่มมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองและฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในระยะนี้
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่และฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมา ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
พื้นที่จังหวัดสงขลา ในทะเลยังคงมีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งอยู่ตลอดเวลา ชาวประมงพื้นบ้านบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ยังคงหยุดออกเรือ เรือทุกลำจอดเรียงรายอยู่บนชายหาดขึ้นมาจนติดถนน เพื่อรอเวลาให้คลื่นลดความรุนแรงลง เพื่อจะได้ออกไปทำการประมงวางอวนจับปลาบริเวณใกล้ฝั่ง เพื่อนำรายได้มาจุนเจือครอบครัว เนื่องจากหยุดออกเรือมาตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นมา ตามประกาศของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก เนื่องจากคลื่นลมแรงในครั้งนี้คลื่นสูง 2 – 3 เมตร และมีลมกรรโชกแรงมากอยู่ตลอดเวลา ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านไม่ฝืนธรรมชาติแม้จะต้องหยุดออกเรือมา 4 วัน และวันนี้อีก 1 วัน คาดว่า ในวันพรุ่งนี้ ถ้าสภาพอากาศดีขึ้นอาจจะได้ออกเรือจับปลาได้ตามปกติ
เมื่อสภาพอากาศยังไม่สามารถออกเรือได้ชาวประมงพื้นบ้านก็ต้องรออีก 1 วัน ตามที่ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกแจ้งเตือน ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ชาวประมงพื้นบ้านไม่เสี่ยงนำเรือออกไปโต้คลื่นลมเหมือนเมื่อสมัยก่อน เนื่องจากปัจจุบันนี้เรือประมงพื้นบ้านส่วนใหญ่จะไม่ใช้เรือแบบไม้ที่เป็นเรือกอและท้ายตัด ที่มีการเขียนลวดลายอย่างสวยงามเหมือนที่ผ่านมา แต่จะใช้เรือไฟเบอร์มาแทนเรือแบบไม้ที่มีน้ำหนักเบาและมีความสะดวกในการนำเรือจอดขึ้นมาบนชายฝั่งจะนำเรือลงน้ำออกทำการประมงเมื่อไหร่ก็ได้ไม่มียุ่งยากเหมือนเรือแบบไม้ที่มีน้ำหนักมากและต้องใช้คนช่วยหลายคน แต่เรือไฟเบอร์จะมีข้อเสียก็คือเรือเบา เวลาถูกคลื่นลมแรงกลางทะเลซัดก็จะโครงเครงมาก หากลมกรรโชกแรงจะทำให้เรืออาจพลิกจมได้ง่าย ซึ่งตรงนี้ที่ชาวประมงพื้นบ้านส่วนใหญ่ไม่กล้านำเรือออกทำการประมงหากคลื่นลมยังมีกำลังแรง /// - 026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี