กทม.เปิดตัวโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” เฟส 2 จับมือสยามพิวรรธน์- LINE MAN Wongnai เพิ่มร้านอาหารร่วมแยกขยะ ลดปัญหา “ขยะเมือง” สร้างกรุงเทพฯ ที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
วันที่ 26 ก.พ. 2568 กรุงเทพมหานครจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม“ เฟส 2 ขยายความร่วมมือ ส่งเสริมร้านอาหารมีบทบาทร่วมกับเมืองบริหารจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน นางสาวนราทิพย์รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์จำกัด นางสาวพิชญาภา พฤตธนานนท์ รองประธานฝ่ายธุรกิจร้านอาหารLINE MAN Wongnai ร่วมแถลงข่าว ณ สุราลัยฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เขตคลองสาน
นายพรพรหมกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้เผชิญกับปริมาณขยะมูลฝอยที่สูงเกือบ 9,000 ตันต่อวันในจำนวนนี้ มากกว่า 50% เป็นขยะอินทรีย์และเศษอาหารซึ่งปัญหาหลักของระบบจัดการขยะในปัจจุบันคือ การปนเปื้อนของเศษอาหารกับขยะประเภทอื่น โดยเฉพาะขยะรีไซเคิล ทำให้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ต้องสูญเปล่าและกลายเป็นขยะฝังกลบ ในปี 2566 กรุงเทพมหานครจึงได้จัดทำโครงการ “ไม่เทรวม” มุ่งเน้นให้ประชาชนและภาคธุรกิจร่วมกันแยกขยะอินทรีย์ออกจากขยะทั่วไป ลดการปนเปื้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะ โดยได้ดำเนินการจนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้กรุงเทพมหานครลดปริมาณขยะได้อย่างต่อเนื่อง สามารถลดงบประมาณในการกำจัดขยะได้มากกว่า200 ล้านบาทแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
และเพื่อขยายผลการจัดการขยะให้ครอบคลุมมากขึ้นจึงได้มุ่งเน้นการร่วมมือกับธุรกิจร้านอาหารซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดขยะจำนวนมหาศาล ทั้งจากกระบวนการประกอบอาหาร (ขยะหลังครัว)และขยะที่เกิดจากการบริโภค (ขยะหลังการกิน) โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ มีร้านอาหารมากกว่า 200,000 แห่ง หากธุรกิจเหล่านี้สามารถแยกขยะตั้งแต่ต้นทางได้อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ อีกทั้งยังจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่ระบบจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวด้วย ภายใต้แนวคิดนี้ กรุงเทพมหานครจึงได้จัดทำโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” เพื่อขยายความร่วมมือกับธุรกิจร้านอาหาร ตลอดจนจัดทำระบบบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการเพื่อยกระดับแนวทางปฏิบัติให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ปัจจุบันได้มีการเผยแพร่รายชื่อร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ https://greener.bangkok.go.th เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้ประชาชนเลือกอุดหนุนร้านอาหารที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม
“ร้านอาหาร ถือเป็นพันธมิตรสำคัญในการลดปัญหาขยะเมือง เพราะร้านอาหารถือเป็นศูนย์กลางการบริโภคของคนเมือง และธุรกิจร้านอาหารก็เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างมหาศาล ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯ มีร้านอาหารมากกว่า 200,000 แห่ง หากมีการบริหารจัดการขยะที่ดี โดยการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ก็จะช่วยลดขยะที่ต้องกำจัดและช่วยลดค่าใช้จ่ายของกรุงเทพมหานคร และเป็นจุดเริ่มต้นของเมืองที่สะอาดขึ้นด้วยซึ่งโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” เป็นโครงการสำคัญที่ช่วยให้ร้านอาหารมีบทบาทร่วมกับเมืองในการบริหารจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ” นายพรพรหม กล่าว
ด้าน นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างกรุงเทพมหานคร และสยามพิวรรธน์ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมของสยามพิวรรธน์ ที่ตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรที่ส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่ “องค์กรขยะเป็นศูนย์” โดยได้ยกระดับโครงการคัดแยกขยะอาหารที่ได้ขยายความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการร้านอาหารภายในศูนย์ฯ เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นต่อจากเฟสแรก ทั้งนี้ รู้สึกภูมิใจที่สยามพารากอนสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยามและไอซีเอส ได้นำร่องเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกของประเทศไทยที่ส่งเสริมการคัดแยกขยะภายในร้านอาหารอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม เฟส 2” สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของผู้ประกอบการที่ใส่ใจและรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการคัดแยกขยะเศษอาหารออกจากขยะประเภทอื่น เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสูงสุด และนำขยะไปจัดการได้อย่างเหมาะสม ช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการมุ่งสู่ “เมืองขยะเป็นศูนย์” (Zero Waste City) ของกรุงเทพมหานคร
นางสาวพิชญาภากล่าวว่า LINE MAN Wongnai ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์อันดับ 1 ของไทย ที่มีร้านอาหารในแพลตฟอร์มทั่วประเทศกว่า 700,000 ร้าน พร้อมเป็นพันธมิตรหลักในการทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร ในโครงการร้านนี้ไม่เทรวม เพื่อช่วยสื่อสารและเชิญชวนให้ร้านอาหารเปลี่ยนพฤติกรรมในการจัดการขยะที่เหลือจากร้านอย่างถูกต้องและเหมาะสม ด้วยจุดแข็งที่เข้าใจและทำงานใกล้ชิดกับร้านอาหาร ประกอบกับแพลตฟอร์มมีร้านอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมกว่า 200,000 ร้าน ทำให้สามารถประชาสัมพันธ์การรับสมัครโครงการได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยเฟสแรกที่เปิดรับสมัครในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพึงพอใจ นอกจากนี้ LINE MAN Wongnai ยังได้สนับสนุน การผลิตผ้ากันเปื้อนและสติ๊กเกอร์ มอบให้ร้านที่เข้าร่วมโครงการ รวมกว่า 4,000 ชิ้น มูลค่ารวม 850,000 บาท รวมถึงเพิ่มสัญลักษณ์พิเศษบนแอปพลิเคชั่น LINE MAN ให้กับร้านที่เข้าร่วมเพื่อสร้างความภาคภูมิใจและช่วยเพิ่มการเข้าถึงของผู้บริโภคที่ต้องการสนับสนุนร้านอาหารที่ร่วมโครงการอีกด้วย
นายพรพรหมกล่าวเพิ่มเติม ในส่วนของการจัดทำบัญชีรายชื่อร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” มีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลและคาดการณ์ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากร้านอาหารในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้การออกแบบเส้นทางการเก็บขยะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลที่ได้ยังสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยปรับปรุงและบริหารงบประมาณในการจัดการขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งโครงการฯ ยังสอดรับกับมาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมขยะอัตราใหม่ของกรุงเทพมหานคร ที่จะเริ่มใช้ในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งจะช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีระบบการแยกขยะชัดเจน สามารถลดต้นทุนด้านค่าธรรมเนียมการกำจัดขยะได้หากแยกขยะอย่างถูกต้อง และเป็นระบบร้านอาหารที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครร่วมโครงการได้ที่ https://greener.bangkok.go.th/ran-mai-te-ruam/ ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านอาหารเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ร่วมสร้างกรุงเทพฯ ที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี