‘สืบภาค 1’ พร้อมตำรวจ‘ตม.1-สน.เตาปูน’ บุกคอนโดฯจีนเทา ภายในซอย กรุงเทพ-นนท์ 23/1 ยึด‘ซิมบ็อกซ์’ลอบติดตั้งในห้องพัก พบโยงคดีตุ๋นเหยื่อใน ‘อุดรธานี’ สูญเกือบ 2 แสนบาท

26 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 สั่งการให้ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พร้อมกำลัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ตม.1 , สน.เตาปูน และกองพิสูจน์หลักฐาน นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นห้องพักคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ภายในซอย กรุงเทพ-นนท์ 23/1 หลังสืบทราบว่าห้องพักดังกล่าวมีอุปกรณ์เครื่องซิมบ็อกซ์ ติดตั้งไว้เพื่อหลอกเหยื่อ โดยมีผู้เสียหายถูกหลอก โดยการแอบอ้างข่มขู่ว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้โอนเงินไปตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไป เป็นจำนวน 180,000 บาท หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ประสาน บก.สส.ภ. 1 ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนสอบสวนจนพบว่าสัญญาณโทรศัพท์นั้นมาปรากฏอยู่ที่คอนโดฯแห่งนี้

จากการตรวจค้นพบเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (gsm gateway) หรือซิมส์บ็อกซ์ จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งสามารถใส่ซิมการ์ดได้ 32 ช่อง/เครื่อง โมเด็มต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต จำนวน 1 เครื่อง กล้องวงจรปิด จำนวน 1 ตัว ซึ่งภายในห้องดังกล่าวไม่พบตัวผู้ต้องหา แต่พบกล้องวงจรปิดและอุปกรณ์ต่างๆยังคงทำงานอยู่ โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปภายในห้องคาดว่าทางผู้ต้องหาน่าจะเห็นผ่านกล้องวงจรปิด จึงได้ทำการตัดสัญญาณเครื่องซิมบ็อกซ์ทันที

จากการสืบสวนพบว่าห้องดังกล่าวมีชาวจีนเป็นเจ้าของห้อง โดยให้คนไทยเป็นนอมินีในการทำสัญญาการซื้อขายคอนโดฯ เช่าได้ 2-3 เดือน โดยไม่มีใครอาศัยอยู่ห้องนี้ แต่จะมีการสังเกตการณ์ผ่านกล้องวงจรปิด หากพบว่าซิมบ็อกซ์มีปัญหาก็จะส่งโปรแกรมเมอร์เข้ามาดูแล พฤติกรรมดังกล่าวมีความผิดฐาน “ร่วมกันทำ มีใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต”

ด้านตำรวจ บก.ตม.1 ตรวจสอบผ่านระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometric) พบว่า คนจีนเจ้าของห้องไม่ได้เดินทางเข้าออกประเทศไทยแม้แต่ครั้งเดียว และสำเนาหนังสือเดินทางมีข้อมูลไม่ตรงกัน จึงเชื่อว่าคนจีนดังกล่าวใช้เอกสารปลอมให้การซื้อขายห้อง ที่นำมายื่นต่อกรมที่ดิน และการไฟฟ้านครหลวง แต่ต้องไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งกับกรมที่ดิน

ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ.เข้าเก็บหลักฐานภายในห้องดังกล่าว เช่น ดีเอ็นเอลายนิ้วมือแฝงบนอุปกรณ์ต่างๆ จากนั้นจะส่งลายนิ้วมือแฝงทั้งหมดตรวจประวัติอาชญากร หากพบว่ามีประวัติจะออกหมายจับทันที โดยหลังจากตรวจสอบได้นำของกลาง และวัตถุพยานทั้งหมดส่งที่ สน.เตาปูน ที่เป็นเจ้าของพื้นที่