รถบัสมรณะแหกโค้งตกเขา
ดับ19เจ็บ32
เทศบาลบึงกาฬดูงานระยอง
เกิดพลิกคว่ำที่ปราจีนบุรี
สาเหตุระบบเบรกขัดข้อง
แฉถนนมรณะเกิดเหตุถี่ยิบ
รถบัสพลิกคว่ำ คณะเทศบาล จ.บึงกาฬ ไปดูงานที่ระยอง ดับ 19 ศพ บาดเจ็บ 32 ราย นายกฯ เสียใจ จี้คมนาคมหาสาเหตุ ด้าน สธ.ลงพื้นที่ดูแลสภาพจิตใจครอบครัวเหยื่อ มท.1 เร่งเยียวยา เผยทบทวนการดูงานแค่ปลายเหตุ แต่ต้อง
เข้มงวดกฎหมาย-ความปลอดภัย ขณะที่ คกก.ความปลอดภัยทางถนน ชงเพิ่มวงเงินประกันภัยเหยื่อ ชี้รถหมวด 30 เสี่ยงสูง-ตรวจสอบยาก ส่วนเส้นทาง 304 ปราจีนฯ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น พลิกคว่ำตกเขาโทน บริเวณหลัก กม.ที่ 210 ถนนสาย 304 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โดยมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ภายหลังตำรวจ สภ.นาดี ได้รับแจ้งเหตุ จึงประสานแพทย์และกู้ภัย เข้าตรวจสอบเหตุ โดยพบรถทัวร์คันดังกล่าว สภาพพลิกคว่ำพังเสียหาย มีผู้เสียชีวิตภายในรถ ทางกู้ภัยพร้อมเครื่องตัดถ่างและอุปกรณ์ต่างๆ ได้เร่งช่วยเหลือนำร่างผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตออกจากรถ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 17 คน ซึ่งอยู่บริเวณรถและถูกรถทับร่าง และมีผู้บาดเจ็บ 31 คน จึงปิดช่องการจราจรช่วงขาลงชั่วคราว และเร่งนำผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาที่ รพ.นาดี และ รพ.กบินทร์บุรี ส่วนการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เป็นรถบัสโดยสารที่เทศบาลพรเจริญ จ.บึงกาฬ ซึ่งจัดโครงการศึกษาดูงานในพื้นที่ จ.ระยอง มีรถ 3 คัน รวมผู้โดยสาร 129 คน ออกเดินทางจาก จ.บึงกาฬ ช่วงเย็นวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่รถวิ่งลงเขาโทน ปรากฏว่ารถทัวร์คันที่ 3 ซึ่งมีผู้โดยสาร 49 คน ได้ประสบอุบัติเหตุเสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางโค้ง จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ต่อมาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งถูกนำส่งไปรักษาที่ รพ.ได้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมเป็น 19 คน สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต ได้แก่ น.ส.ยุภาวดี สุวรรณโคตร นายประภัสสร ทองปาน น.ส.พิรานันท์ ภิรมย์จรัลฐาวร นายทองอินทร์ จันทร์อ่อน น.ส.อภัญญา บุตรวัง นางเลียว ไชยเสนา น.ส.สุจิตตรา วิเศษทรัพย์ น.ส.บัวเงิน สุดาบุตร นางมะโยลี วงค์สุภา นางสมบุญ ธิพัน นางสมหวัง พรหมพิทักษ์ นางประหยัด เสียงล้ำ นายทองใบ สอนเชียงคำ นายภานรินทร์ จ่าพบ นางราตรี ลบพันธ์ทอง น.ส.พิมพกานต์ พินทะเนาว์ (นวลศรี พินทะเนาว์) นายบุญโฮม จันทร์อ่อน และนายทองใส พรมเลิศ
ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ และยินดีให้ความช่วยเหลือ หากมีปัญหาเรื่องค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัย หรือด้านคดี รวมถึงหากมีกรณีของทรัพย์สินผู้เสียชีวิตและการร้องขอเรื่องการจัดการมรดก ครอบครัวของผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ สามารถติดต่ออัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ จ.บึงกาฬ เพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ฟรี หรือโทร.สายด่วนอัยการ 1157 เรื่องนี้ตนได้แจ้งอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ จ.บึงกาฬ ไว้แล้ว
ที่ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงอุบัติเหตุรถโดยสารพลิกคว่ำดังกล่าว ว่าได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม เร่งตรวจสอบสาเหตุแล้ว เราต้องดูก่อนว่าต้นเหตุเกิดจากอะไรอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายกฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “กรณีรถบัสดูงานจากจังหวัดบึงกาฬประสบอุบัติเหตุ ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีการดูแลผู้บาดเจ็บให้ได้รับการรักษาเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินแล้ว สำหรับผู้ที่บาดเจ็บไม่มาก ให้มีการดูแลอำนวยความสะดวกให้เดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัยค่ะ ทั้งนี้ ดิฉันได้กำชับให้กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว หากพบว่ามีการฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ผ่านมาตรฐาน หรือเข้าข่ายใช้รถด้วยความประมาท ขอให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และได้กำชับไปเรื่องการตรวจรถที่ต้องปลอดภัย-ผ่านมาตรฐานที่กำหนดก่อนนำมาใช้งาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดการสูญเสียเช่นนี้อีกค่ะ”
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก รพ.นาดี ว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ 19 คนแล้ว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 32 คน โดยรักษาตัวที่ รพ.นาดี 23 คน และที่ รพ.กบินทร์บุรี 9 คน เบื้องต้นได้ประสานทีม mcatt สสจ.ปราจีนบุรี ทีม mcatt สสจ.บึงกาฬ พร้อมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เร่งพูดคุยกับญาติผู้ประสบเหตุ เพื่อคัดกรองด้านสุขภาพจิต และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากจิตใจ ทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนจะส่งต่อข้อมูลให้ รพ.จิตเวชสระแก้ว
“ผมขอแสดงความเสียใจและส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขอให้ความเชื่อมั่นว่ากระทรวงสาธารณสุขจะให้การช่วยเหลือดูแลพี่น้องอย่างเต็มที่ ทั้งทางกายและทางใจ และขอให้แนะนำให้ช่วยกันสอดส่องดูแลสภาพจิตใจผู้ได้รับผลกระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อม อย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือโทร.ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323” นายสมศักดิ์ กล่าว
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ว่าได้รับทราบจากข่าว ส่วนการให้ความช่วยเหลือนั้น เป็นไปตามระบบรายละ 500,000 บาท ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องทบทวนการดูงานในพื้นที่ระยะไกลหรือไม่นั้น เป็นเรื่องปลายเหตุ สิ่งที่ต้องดูคือสภาพรถเป็นอย่างไร อย่างกรณีนี้วิ่งระยะทางจากบึงกาฬไปปราจีนบุรี ใช้คนขับกี่คน จำกัดความเร็วอย่างไร ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนก่อน
“เหตุแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิด แต่ไม่ใช่ว่าเกิดเหตุแล้ว เหมือนก่อนหน้านี้ ก็มาห้ามไม่ให้ทัศนศึกษา เดินทางต่างถิ่น ก็ไม่ใช่ อย่างนี้เศรษฐกิจพัฒนาไม่ได้ การเสริมทักษะความรู้ก็เกิดขึ้นไม่ได้ คิดว่าไม่เกี่ยวข้องกัน สิ่งที่ต้องไปดูคือเรื่องการปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย กฎจราจรเป็นอย่างไร มากกว่า” นายอนุทิน กล่าว
ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของรัฐสภา และประธานคณะอนุกรรมการด้านประสานงานบริหารจัดการรณรงค์และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุ แถลงแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า คณะกรรมการฯ ให้ความสำคัญกรณีนี้เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุของรถโดยสารไม่ประจำทาง หมวด 30 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นในกรณีเพลิงไหม้รถบัสนักเรียนจาก จ.อุทัยธานี
นายนิกร กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้ศึกษาและเสนอแนวทางเชิงนโยบายไปยังคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย ส่วนคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและยานพาหนะ ซึ่งมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีต สว.เป็นประธาน จะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในคณะอนุกรรมการฯ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง ว่าเกิดจากตัวผู้ขับขี่ สภาพรถ หรือเส้นทางคมนาคมที่ไม่ปลอดภัย ก่อนเสนอข้อสรุปต่อคณะกรรมการชุดใหญ่
นายนิกร กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์ด้านคมนาคมของตนที่มีมากกว่า 20 ปี มองว่ารถโดยสารหมวด 30 มีความปลอดภัยต่ำมาก เนื่องจากไม่ใช่รถที่วิ่งประจำทาง ทำให้การตรวจสอบด้านความปลอดภัยเป็นไปได้ยาก รวมถึงการควบคุมความเร็วก็ติดตามได้ยาก นอกจากนี้ในช่วงหลังพบอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถบัสโดยสาร 2 ชั้น และรถตู้โดยสาร หมวด 30 เพิ่มขึ้น ส่วนการขับขี่ ความเร็ว และการเดินทางในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น ถนนสาย 304 เป็นเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยในปี 2567 พบว่าเกิดอุบัติเหตุใหญ่เกือบ 10 เคส นอกจากนี้ยังมีถนนเสี่ยงอีกหลายเส้นทาง แต่ปัจจุบันมาตรการความปลอดภัยต่างๆ ยังอยู่ในระดับขอความร่วมมือเท่านั้น ไม่มีสภาพบังคับที่ชัดเจน
“เรื่องความปลอดภัยทางถนนต้องใช้เวลาในการปรับปรุง แต่การเยียวยาผู้ประสบเหตุไม่สามารถรอได้ ที่ผ่านมาได้หารือนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งกำลังพิจารณาแนวทางการเพิ่มวงเงินประกันภัยให้เหมาะสมแก่เหตุ เนื่องจากปัจจุบันวงเงินประกันภัยอยู่ที่ 10 ล้านบาท โดยแบ่งเยียวยาผู้เสียชีวิตเพียง 500,000 บาท ตนมองว่าน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เช่น กรณีนี้มีผู้เสียชีวิตถึง 18 คน และยังมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หากคำนวณเงินเยียวยาต่อราย จะไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ดังนั้นต้องมีการขยายวงเงินประกันภัยให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เพื่อให้เกิดความระมัดระวังจากผู้ประกอบการ และช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างเหมาะสม” นายนิกร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี