เผยสูตรคำนวณบำนาญชราภาพใหม่ ผ่านการวิจัย-อนุกรรมการแล้ว แต่ถูกดองข้ามปี?! "ษัษฐรัมย์"ขอความเป็นธรรมให้คน 3 แสนคน ด้าน"นักสื่อสารแรงงาน"ระบุลูกจ้างแห่หนีประกันสังคมไประบบอื่นที่ดูแลยามชราภาพดีกว่า
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ทีมประกันสังคมก้าวหน้า หนึ่งในคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) สัดส่วนผู้ประกันตน โพสต์ผ่านเฟสบุคถึงสูตรคำนวณบำนาญชราภาพใหม่ โดยระบุถึงข้อความระหว่างชี้แจงในที่ประชุมบอร์ดประกันสังคม เพื่อชี้ให้เห็นถึงสิทธิประโยชน์ที่ลดลงของผู้ประกันตน มาตรา 39 ซึ่งยืนยันว่าสูตรคำนวณบำนาญใหม่นี้ ไม่ได้ขอให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ต้องเพิ่มบำนาญให้ผู้ประกันตน แต่เป็นการคำนวณเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบตามมาตรา 33 มาโดยตลอด
กรรมการประกันสังคมผู้นี้ระบุว่า สูตรคำนวณบำนาญใหม่หลังจากฝ่ายวิจัยได้นำเสนอในทางตัวเลขไปแล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อนตนได้สนทนากับผู้ประกันตนรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ประกันตน ม.39 และเป็นผู้รักษาตัวจากโรคมะเร็งด้วยสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ โดยอายุกว่า 40 ปี ส่งประกันสังคม ม.33 มาหลายปีแต่หากเขาส่ง ม.39 ต่อ บำนาญของเขาจะลดลงกว่าครึ่ง
“เมื่ออายุ 55 ปี เขาจะเป็นชีวิตที่ยากลำบากมากๆของผู้ป่วยมะเร็ง หากเขายังไม่เสียชีวิต เงินบำนาญของเขาเพียงเท่านี้อาจไม่พอ แม้แต่จ่ายค่าไฟเลยด้วยซ้ำ เราไม่ได้ขอปรับเพิ่มบำนาญ แต่ขอเพียงสูตรคำนวณที่เป็นธรรมแก่คนธรรมดา” นายษัษฐรัมย์ ระบุ
กรรมการบอร์ดประกันสังคมรายนี้ ยังระบุว่า สูตรคำนวณบำนาญใหม่ผ่านอนุกรรมการประกันสังคมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 แต่จนถึงบัดนี้บอร์ดประกันสังคมยังไม่รับหลักการเบื้องต้นเพื่อให้รายงานฝ่ายวิจัยเรื่องนี้ได้เดินหน้าไปสู่ขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์
“ท่านอาจเห็นตัวเลข แต่ผมเห็นชีวิต ไม่มีรายงานฉบับใดจะละเอียดเท่าที่ฝ่ายวิจัยทำมาแล้ว เรื่องนี้ผ่านอนุกรรมการมาตั้งแต่ตุลาคมตอนนี้ก็มากกว่า 100 วันมาแล้ว ผมขอเสนอให้คณะกรรมการ รับหลักการเบื้องต้น สูตรบำนาญใหม่นี้ เพื่อเดินหน้าสู่การทำประชาพิจารณ์ และกลับเข้าคณะกรรมการอีกครั้ง ถึงตอนนั้นท่านค่อยตัดสินใจอีกครั้งก็ได้” นายษัษรัมย์ โพสต์ระบุ และว่า “ถ้อยคำของผมคำต่อคำ ต่อที่ประชุมประกันสังคมก่อนที่วาระเรื่องสูตรบำนาญใหม่ยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการประกันสังคม และส่งผลให้คน 300,000 คน ที่จะได้รับผลประโยชน์ด้านนี้ต้องรอต่อไป”
ด้าน วาสนา ลำดี ทีมงานด้านสื่อพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย และผู้ประกันตนมาตรา 33 กล่าวว่า ตนเคยออกจากงานจึงเคยเป็นทั้งผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 ครั้งแรกนั้นเป็นรุ่นแรกของประกันสังคมที่ยังไม่มีกรณีว่างงาน เมื่อถูกเลิกจ้างหรือว่างงานไม่มีสวัสดิการรองรับ แต่เมื่อมีประกันว่างงาน คนงานที่ถูกเลิกจ้างก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะได้รับแค่ 30 - 50% และเป็นช่วงระยะสั้นๆก็ตาม แต่พอเราเข้าสู่มาตรา 39 สิทธิประโยชน์เหลือ 6 กรณี การส่งเงินสมทบแพงมากสำหรับคนว่างงาน เดือนละ 432 บาท เพราะต้องส่ง 2 ฝ่ายแทนนายจ้างด้วย
วาสนา กล่าวอีกว่า เคยตกงาน 2 ครั้งซึ่งในกฎหมายกำหนดเลยว่าถ้าไม่เข้ามาตรา 39 จะต้องหลุดออกจากระบบประกันสังคม โดยมาตรา 39 อาจดูดีกับคนป่วยหรือคนที่ต้องรักษาพยาบาลต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันนี้ถ้าทำงานมาครบ 15 ปี ผู้ประกันตนจำนวนมากจะไม่เข้ามาตรา 39 และรอบำนาญตอนอายุ 55 ปีเลยดีกว่า เพราะเข้าไปมาตรา39 ทำให้ได้บำนาญชราภาพน้อยลง ถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ระบบประกันสังคมจะดีได้อย่างไรในเมื่อมันไม่สามารถทำให้ทุกคนเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้
วาสนา กล่าวว่า ในขณะที่เป็นผู้ประกันตนและตกงาน แต่ยังยอมอยู่ในระบบประกันสังคมเพราะต้องการบำนาญเมื่อวันที่เข้าสู่วัยเกษียณ โดยตอนนั้นตนส่งเงินสมทบตามมาตรา 39 ไปเรื่อยๆ เพราะจะได้บำนาญชราภาพ แต่ข้อเท็จจริงพบว่า บำนาญของมาตรา 39 ส่งเดือน 432 บาท ถ้าส่ง 15 ปี พออายุ 55 จะได้เงินชราภาพเดือนละ 900 บาท
“ถ้าอยากได้บำนาญให้ไปใช้กฎหมายบำนาญแห่งชาติ ทำให้แรงงานนอกระบบลาออกจากประกันสังคมจำนวนมาก เพราะถ้าไม่มีบำนาญ คนก็ไม่รู้สึกว่าต้องเข้าระบบประกันสังคม มาตรา 40 บางคนคิดว่าไปซื้อประกันชีวิตดีกว่า ได้เงินคืนด้วย เราคิดว่าที่อาจารย์ษัษฐรัมย์ เสนอเป็นเรื่องดี ควรเป็นแบบนั้น เราเข้าสู่สังคมสูงวัย คนรุ่นใหม่ก็ต้องวางแผนว่าจะเข้าสู่ระบบประกันสังคมอย่างไร เพราะประกันสังคมถ้าไม่มีบำนาญก็แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย” วาสนา กล่าว
วาสนา กล่าวว่า โดยอุดมการณ์แล้วเราอยากให้ทุกคนในสังคมอยู่ในระบบประกันสังคม แต่ในข้อเท็จจริงแล้วกฎหมายไม่เอื้อให้คนทั้งสังคมเข้าสู่ระบบ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าเสียดายเพราะทำให้คนไม่มีสวัสดิการที่เท่ากัน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี