กทม. เปิด ’ร้านนี้ไม่เทรวม‘ เฟส 2 ชวนร้านอาหารในกรุงกว่า 2แสน ร่วมแยกขยะ-รับผิดชอบต่อสังคม
เมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” เฟส 2 พร้อมรับมอบผ้ากันเปื้อนและสติกเกอร์โครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” จำนวน 4,000 ชิ้น จากนางสาวพิชญาภา พฤตธนานนท์ รองประธานฝ่ายธุรกิจร้านอาหาร LINE MAN Wongnai โดยมี นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงาน ปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด นายอนนต์ อัตถวิบูลย์ ผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ผู้บริหารสำนักงานเขตคลองสาน ผู้แทนภาคีเครือข่าย และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมงานแถลงข่าว ณ สุราลัยฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เขตคลองสาน
นายพรพรหม กล่าวว่า ความไว้ใจเป็นสิ่งสำคัญ ต้องสร้างความไว้ใจให้ประชาชนในการจัดเก็บขยะเมื่อประชาชนมีการคัดแยกขยะ กรุงเทพมหานคร (กทม.) วางแผนยุทธศาสตร์ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องการจัดการขยะแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ เล็ก (S) กลาง (M) ใหญ่ (L) โดย L จะเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ อาคารสำนักงาน โรงเรียน ศาสนสถาน วัด เป็นต้น ซึ่งแบ่งเป็น 22 แหล่งกำเนิด หากใครพร้อมสำนักงานเขตก็จะเข้าไปให้ความรู้และช่วยส่งเสริมการดำเนินการ ในส่วนของ L ได้ทำไปค่อนข้างเยอะแล้ว ก่อนที่จะเกิดโควิด 19 ขยะประมาณ 1,100 ตันต่อวัน ปัจจุบันปริมาณขยะอยู่ที่ประมาณ 9 พันกว่าตันต่อวัน สามารถลดขยะได้เกือบ 2 พันตันต่อวัน
สำหรับ M จะเป็นร้านอาหารที่ไม่ได้อยู่ในห้างสรรพสินค้า จะมีความท้าทายมากขึ้น เพราะ กทม. จะต้องไปรวบรวมขยะแล้วนำไปกำจัดที่เดียว จึงได้มีการจัดทำโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” เปิดให้ร้านสมัครใจเข้าร่วมโครงการ มีการคัดแยกขยะ ซึ่งทางร้านจะมีการแจ้งพิกัดให้สำนักงานเขตทราบเพื่อสะดวกในการเข้าไปจัดเก็บขยะ รวมถึง LINE MAN Wongnai ได้สนับสนุนอุปกรณ์ในการคัดแยกขยะ รวมถึงมีเว็บไซต์ https://greener.bangkok.go.th ให้ร้านอาหารแสดงตัวในเว็บไซต์ได้ด้วยเพื่อเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์อีกทางหนึ่ง ซึ่ง กทม. ตั้งเป้าให้มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ 2,500 ร้าน ตกเขตละ 50 ร้าน
ส่วน S คือ ประชาชนทั่วไป เป็นส่วนที่ยากที่สุด ซึ่งก่อนหน้าที่ กทม. มีการขอความร่วมมือในการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง แต่ว่ามีประชาชนบางส่วนที่ทำ และคนกลุ่มใหญ่อาจไม่ได้ทำ ซึ่งคิดว่าอาจจะเพราะขาดเชื่อมั่นใน กทม. จะทำได้จริง แยกไปเดี๋ยวก็มารวมกัน จึงได้มีกลไกเรื่องค่าธรรมเนียม ที่มีการเพิ่มมิติในเรื่องที่หากมีการคัดแยกขยะก่อนทิ้งสามารถลดหย่อนค่าจัดเก็บขยะได้ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการสามารถลดหย่อนค่าธรรมเนียมจัดเก็บขยะจาก 60 บาท เป็น 20 บาทได้ โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการทางคิวอาร์โค้ดได้ด้วยตนเอง นอกจาก กทม. ได้แสดงถึงความจริงจังในการดำเนินการโดยจะมีการจัดรถเก็บขยะเศษอาหารตามบ้านเรือนสัปดาห์ละ 3 ครั้ง สนับสนุนถุงขยะ เป็นต้น ซึ่ง กทม. ได้ดำเนินการในทุกกลุ่มแล้ว ขอให้ทุกคนแสดงพลังในการคัดแยกขยะ ช่วยกันส่งเสริมสิ่งแวดล้อมของเมือง เพราะทุกคนสามารถร่วมมือกันในการเปลี่ยนเมืองตามสโลแกน “เริ่มที่คุณ เปลี่ยนทั้งเมือง” ได้
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กทม.เผชิญกับปริมาณขยะมูลฝอยที่สูงเกือบ 9,000 ตันต่อวัน ในจำนวนนี้ มากกว่า 50% เป็นขยะอินทรีย์และเศษอาหาร ซึ่งปัญหาหลักของระบบจัดการขยะปัจจุบันคือ การปนเปื้อนของเศษอาหารกับขยะประเภทอื่น โดยเฉพาะขยะรีไซเคิล ทำให้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ต้องสูญเปล่าและกลายเป็นขยะฝังกลบ ในปี 2566 กทม.จึงได้จัดทำโครงการ “ไม่เทรวม” มุ่งเน้นให้ประชาชนและภาคธุรกิจร่วมกันแยกขยะอินทรีย์ออกจากขยะทั่วไป ลดการปนเปื้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะ ดำเนินการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้กรุงเทพมหานครสามารถลดปริมาณขยะ รวมถึงลดงบประมาณในการกำจัดขยะได้มากกว่า 200 ล้านบาทแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และเพื่อขยายผลการจัดการขยะให้ครอบคลุมมากขึ้น จึงได้มุ่งเน้นการร่วมมือกับธุรกิจร้านอาหารซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดขยะจำนวนมหาศาล โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ มีร้านอาหารมากกว่า 200,000 แห่ง หากสามารถแยกขยะตั้งแต่ต้นทางได้อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด ลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ อีกทั้งยังจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่ระบบจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวด้วย
ภายใต้แนวคิดนี้ กทม.จึงได้จัดทำโครงการ “ร้านนี้ไม่เทรวม” เพื่อขยายความร่วมมือกับธุรกิจร้านอาหาร ตลอดจนจัดทำระบบบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการเพื่อยกระดับแนวทางปฏิบัติให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ปัจจุบันได้มีการเผยแพร่รายชื่อร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ https://greener.bangkok.go.th เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้ประชาชนเลือกอุดหนุนร้านอาหารที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม โดยร้านอาหารที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครร่วมโครงการได้ที่ https://greener.bangkok.go.th/ran-mai-te-ruam/
037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี