‘รวบสาวลพบุรี’ ปีนรั้วกั้นพรมแดนสถานีรถไฟคลองลึกจากเขมรเข้าไทย อ้าง!หนีมาจากแก๊งคอล
วันที่ 27 ก.พ. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา (ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา) สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 (ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12) และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201) นำกำลังพล ร้อย ทพ.1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึกฯสนธิกำลังร่วมกับ จนท.ชปข.2 และ นฝด.11 กกล.บูรพา ออกทำการลาดตะเวณป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติริมชายแดน บริเวณท้ายตลาดโรงเกลือ และจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายซีลเข้มชายแดนช่องธรรมชาติ ของนายกรัฐมนตรีและกองทัพบก
ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วม ร้อย ทพ.1201 ได้ตรวจพบหญิงต้องสงสัย สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวลายพรางสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินพร้อมกระเป๋าสัมภาระ ลักลอบปีนรั้วชายแดนหลังสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย
จนท.จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ได้ พบว่าเป็นคนไทย ชื่อ น.ส.มิ่งขวัญ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ชาว จ.ลพบุรี ตรวจค้นไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตผ่านแดนแต่อย่างใด อ้างว่าหลบหนีมาจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะกลับบ้านเกิดที่ จ.ลพบุรี จึงควบคุมตัวมาทำการซักถามที่ กองร้อยทหารพรานที่ 1201 จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการซักถามเบื้องต้น น.ส.มิ่งขวัญ ได้อ้างว่า ได้สมัครงานออนไลน์มาทางแอพหางานทางแอพลิเคชั่น เฟสบุ๊ค ให้มาทำงานออนไลน์ที่ปอยเปต ฝั่งกัมพูชา ได้เงินเดือน 2 หมื่นบาท จึงเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.68 โดยนั่งรถโดยสารมาลงที่ บขส.อรัญประเทศฯจากนั้นมีชาวกัมพูชา ขี่รถ จยย.มารับไปส่งข้ามแดนช่องธรรมชาติ เสียค่าใช้จ่ายไป 2,000 บาท เมื่อข้ามไปฝั่งเขมรแล้วมีชาวเขมรขี่รถ จยย.มารับไปส่งที่ตึก 18 ชั้น โซนน้ำพุ กรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา แล้วมีคนกัมพูชาเชื้อสายจีนมารับเข้าไปในตึก เมื่อเข้าไปแล้วจึงรู้ว่าถูกหลอกให้มาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีเจ้าของเป็นคนจีน จากนั้นก็บังคับให้ทำงานประเภทชักชวนให้บุคคลมาลงทุนเพิ่มยอดขายสินค้าในรายการที่เขากำหนด ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.68 และบังคับให้ทำยอดให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้หากทำไม่ได้ก็จะถูกทำร้ายร่างกายไม่ให้กินข้าว และไม่ให้ออกไปไหน
น.ส.มิ่งขวัญ อ้างอีกว่า เมื่อทำงานได้ครบ 1 เดือน นายจ้างชาวจีนก็ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างแต่อย่างใด พร้อมทั้งข่มขู่ให้ทำยอดหลอกลวงให้ได้ตามเป้า หากไม่ได้จะถูกทำโทษอย่างหนัก ทำให้ตนกลัวมากจึงหาทางหลบหนีมาโดยตลอด จนกระทั่งสบโอกาสช่วงกลางดึกจึงได้หลบหนีออกมาจากตึกชั้น 18 แล้วเจอชาวกัมพูชา ขี่รถ จยย.ผ่านมาจึงขอให้เขาช่วยพามาส่งบริเวณชายแดนช่องธรรมชาติ ตนจึงตัดสินใจปีนรั้วสถานีรถไฟจากฝั่งกัมพูชา ข้ามเข้ามาในฝั่งไทยซึ่งรั้วมีความสูงเกือบ 3 เมตร แต่ตนต้องเสี่ยงดีกว่าถูกแก๊งคอลฯจับกลับไป ตอนนั้นคิดอย่างเดียวขอให้ได้พ้นขุมนรกในเขมรให้ได้ เท่านั้นจนกระทั่งมาถูก จนท.ทหารพรานไทยจับได้ ก็ถือว่ายังดีที่ได้กลับประเทศไทยแล้ว
จากนั้น จนท.ได้ควบคุมตัว น.ส.มิ่งขวัญฯส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีและสอบสวนขยายผลถึงขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป /// - 026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี