ปัญหาเรื่องขยะมูลฝอย โดยทั่วไปมักเป็นปัญหาในเรื่องของการจัดการหรือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะการทิ้งในที่สาธารณะ
แต่ยังมีประชาชนรวมถึงเจ้าของที่ดินที่อีกไม่น้อยมีความเข้าใจว่า การทิ้งขยะในที่ดินของตนเองนั้นสามารถจะทำได้ หรือไม่ว่าจะเป็นกรณีที่รู้อยู่ว่าฝ่าฝืนกฎหมายแต่ก็ยังคงกระทำก็ตาม
โดยกฎหมายเกี่ยวกับขยะมูลฝอยที่สำคัญที่ควรศึกษาเมื่อมีกรณีพิพาทหรือมีข้อสงสัยมีดังนี้
พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ได้มีนิยามคำว่า “มูลฝอย” หมายความว่า เศษกระดาษ เศษผ้า เศษอาหาร เศษสินค้า ถุงพลาสติก ภาชนะที่ใส่อาหาร เถ้า มูลสัตว์ หรือ ซากสัตว์ รวมตลอดถึงสิ่งอื่นใดที่ เก็บกวาดจากถนน ตลาด ที่เลี้ยงสัตว์ หรือที่อื่นๆ
โดยต่อมากระทรวงสาธารณสุขได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติมในฉบับที่2 พ.ศ.2550 โดย นิยามคำว่า “มูลฝอย” หมายถึง มูลฝอย หมายความว่า เศษกระดาษ เศษผ้า เศษอาหาร เศษสินค้าเศษวัตถุ ถุงพลาสติก ภาชนะที่ใส่อาหารเถ้า มูลสัตว์ ซากสัตว์ หรือสิ่งอื่นใดที่เก็บกวาดจากถนน ตลาด ที่เลี้ยงสัตว์ หรือที่อื่น และหมายความรวมถึงมูลฝอยติดเชื้อ มูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน อีกด้วย
พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ได้มีนิยามคำว่า “วัตถุอันตราย” หมายความว่า วัตถุระเบิดได้วัตถุไวไฟ วัตถุออกซิไดซ์และวัตถุเปอร์ออกไซด์ วัตถุมีพิษ วัตถุที่ทำให้เกิดโรค วัตถุกัมมันตรังสี วัตถุที่ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม วัตถุกัดกร่อน วัตถุที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง วัตถุอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นเคมีภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใด ที่อาจทำให้เกิดอันตราย แก่บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม และให้นิยามคำว่า “มีไว้ในครอบครอง” หมายความว่า การมีไว้ในครอบครองไม่ว่าเพื่อตนเองหรือ ผู้อื่น และไม่ว่าจะเป็นการมีไว้เพื่อขาย เพื่อขนส่ง เพื่อใช้ หรือเพื่อประการอื่นใดและรวมถึงการทิ้งอยู่ หรือปรากฏอยู่ ในบริเวณที่อยู่ในความครอบครองด้วย
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ซึ่งนิยามคำว่าของเสียตามมาตรา 4 หมายความว่า ขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูลน้ำเสีย อากาศเสีย มวลสารหรือวัตถุ อันตรายอื่นใดซึ่งถูกปล่อยทิ้งหรือมีที่มาจากแหล่งกำเนิดมลพิษ รวมทั้งกาก ตะกอน หรือสิ่งตกค้างจากสิ่งเหล่านั้นที่อยู่ในสภาพของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ
ซึ่งในกฎหมายทั้ง 3 ฉบับยังกำหนดหลักการในการจัดการขยะเอาไว้อย่างละเอียด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในการทิ้ง ฝังกลบ ขยะในที่ดินของตนเองนั้น ก็จำเป็นจะต้องทำภายใต้วิธีที่กฎหมายกำหนดจะนำไปทิ้งหรือฝังกลบโดยพลการไม่ได้
นอกจากจะเป็นขัดต่อกฎหมายทั้ง 3 ฉบับเบื้องต้นโดยตรงแล้ว กรณีเกิดฝนตกหรือน้ำชะล้างของเสียหรือสิ่งปฏิกูลลงไปในที่ดินหรือลำรางสาธารณะก็มีโอกาสที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญารวมถึง พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 32 ห้ามมิให้ผู้ใด (1) ทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยลงบนที่สาธารณะ (2) ปล่อยปละละเลยให้มีสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในที่ดินของตนในสภาพที่ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ
มาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ใดเทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูล น้ำโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำ
มาตรา 35 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท เป็นต้น
กล่าวโดยสรุปคือ ใจความสำคัญของกฎหมายดังกล่าวข้างต้นเกี่ยวกับการทิ้งขยะมูลฝอยหรือสิ่งปฏิกูลในที่ดินของตนนั้น ไม่สามารถกระทำได้หากไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตหรือดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายรวมทั้งอาจจะมีโทษทางอาญาเนื่องจาก การชะล้างสิ่งปฏิกูลลงไปในพื้นที่ข้างเคียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี