'นักวิชาการธรรมศาสตร์'ชี้รถบัส 2 ชั้น เสี่ยงอุบัติเหตุกว่ารถชั้นเดียวถึง 7 เท่า เสี่ยงตายมากกว่า 10 เท่า จึงไม่เหมาะสมวิ่งทางไกล-ทางคดเคี้ยว-ลาดชัน เหตุผู้โดยสารอยู่ข้างบน ส่งผลให้ ‘จุดศูนย์ถ่วง’ ไม่สมดุล ระบุต่างประเทศใช้แค่เป็นรถชมเมืองเท่านั้น เสนอแก้ปัญหาเบื้องต้น กำหนดโซนให้รถ 2 ชั้น วิ่งได้จำกัด
กรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถโดยสารไม่ประจำทาง ของคณะศึกษาดูงานของเทศบาลตำบลพรเจริญ พลิกคว่ำ โดยตกข้างทางบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 210 ถนนสาย 304 เขาศาลปู่โทน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 18 ราย และบาดเจ็บจำนวน 31 ราย
ดร.ณฐกร พุกสุขสกุล อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ รถบัส 2 ชั้น ไม่เหมาะสมในการวิ่งหรือโดยสารในระยะทางไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่หรือเส้นทางที่มีความคดเคี้ยว และลาดชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ต่างจังหวัด เนื่องจากรถบัส 2 ชั้น ซึ่งมีผู้โดยสารนั่งอยู่ที่ชั้นสอง จะส่งผลต่อน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่ารถบัสประเภทชั้นเดียวถึง 7 เท่า และหากเกิดอุบัติแล้ว มีความเสี่ยงที่ผู้โดยสารจะเสียชีวิต ได้มากกว่ารถบัสชั้นเดียวถึง 10 เท่า
ดร.ณฐกร กล่าวว่า การที่ผู้โดยสารนั่งอยู่ที่ชั้น 2 ของตัวรถนั้น จะทำให้จุดศูนย์ถ่วงของรถบัสไม่สมดุล เพราะน้ำหนักทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 2 ขณะที่บริเวณด้านล่างไม่มีคนนั่ง หรือสัดส่วนของน้ำหนักและจำนวนที่นั่งไม่เท่ากับด้านบน จึงสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำได้ง่าย ในเชิงหลักวิชาการที่ควรจะเป็น รถโดยสารประเภท 2 ชั้น ทั้งรถบัส รถทัวร์ ฯลฯ จึงไม่มีความเหมาะสมที่จะใช้ในการเดินทางไกล หรือใช้เป็นรถโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบประจำทาง หรือไม่ประจำทางก็ตาม
สำหรับการใช้งานรถบัส 2 ชั้นที่เหมาะสม นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าวว่า รถบัส 2 ชั้น เหมาะสมสำหรับการเป็นรถชมเมือง (City tour) เพื่อการท่องเที่ยว โดยเป็นรถเปิดประทุน วิ่งในพื้นที่เมือง และวิ่งด้วยความเร็วเพียง 30 – 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในพื้นที่ระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก ซึ่งในหลายประเทศก็ใช้งานเช่นนี้
ดร.ณฐกร กล่าวอีกว่า แม้ว่าสิ่งที่ได้นำเสนอจะเป็นทฤษฎีหรือหลักการที่ควรจะเป็น แต่ถ้าจะให้มีการยกเลิกการใช้งานรถโดยสารประเภท 2 ชั้น ในประเทศไทยซึ่งมีอยู่กว่า 7,000 คัน โดยเกินกว่า 50% เป็นลักษณะของรถไม่ประจำทาง ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ทันที ดังนั้นเบื้องต้นจึงขอเสนอแนะให้มีการปรับมาตรการการบังคับใช้ ด้านความปลอดภัยในการใช้รถไม่ประจำทาง ให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันกับรถประจำทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวนคนขับ เรื่องข้อกำหนดระยะเวลาที่ต้องมีจุดพักรถ หรือเรื่องการควบคุมความเร็วซึ่งอาจจะกำหนดให้ต่ำกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมไปถึงการกำหนดโซนพื้นที่ที่รถโดยสารประเภท 2 ชั้น สามารถวิ่งได้ในระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี