พี่น้องชาวมุสลิมทั้งชาวไทย และชาวมาเลเซีย ข้ามแดนมาเลือกซื้อ ‘ผลอินทผลัม’ ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงเพื่อเตรียมต้อนรับช่วงเดือนรอมฎอน โดยจะใช้กินหลังการละศีลอดเนื่องจากมีสรรพคุณแก้อาการอ่อนเพลียในช่วงละศิลอด ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายกลับมาคึกคัก
วันที่ 28 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นตลาดห่างจากด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่างอำเภอเบตงกับรัฐเปรัคประเทศมาเลเซียประมาณ 7 กิโลเมตร โดยวันนี้มีประชาชนทั้งชาวไทย และชาวมาเลเซีย รวมไปถึงมุสลิมในพื้นที่ใกล้เคียงออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อเตรียมไว้ต้อนรับช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอด ของพี่น้องชาวมุสลิม ที่จะเริ่มดูดวงจันทร์ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หากเห็นดวงจันทร์ในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งจะตรงกับวันเสาร์ที่ 1 มีนาคมก็จะเริ่มนับเข้าสู่เดือนรอมฎอน และหากไม่เห็นดวงจันทร์จะเลื่อนมาดูในวันที่ 2 มีนาคมซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ มีนาคมนี้และจะเข้าสู่เดือนรอมฎอนอย่างเป็นทางการ
โดยสินค้าที่นิยมซื้อส่วนใหญ่เป็นจำพวกอาหารแห้ง เช่น น้ำมันพืช น้ำตาล ผลไม้ และเครื่องต้มยำ โดยเฉพาะ ‘ผลอินทผลัม’ ผลไม้รับเดือนบวชเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ด้าน นายดือรอแม (พ่อค้า) เปิดเผยว่า ช่วงนี้เริ่มขายของดีเพราะใกล้เข้าสู่เดือนรอมฎอนหรือเดือนละศิลอดของพี่น้องชาวมุสลิมทั้งในพื้นที่และชาวมาเลเซียเลยทำให้ในช่วงนี้คึกคัก โดยส่วนมากมาเลือกซื้อผลอินทผลัมที่นำมาจำหน่ายมีราคาตั้งแต่กล่องละ 40 บาท ไปจนถึงราคากล่องละ 90-100 บาทขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ
‘ผลอินทผลัมที่นำมาขายจะมีรสชาติหวานน้อย โดยพี่น้องชาวมุสลิมจะไว้กินหลังละศีลอดเป็นอันดับแรกก่อนดื่มน้ำตาม และกินอาหารอย่างอื่น เนื่องจากตามหลักทางศาสนาอิสลามมีความเชื่อกันว่า เป็นผลไม่ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากช่วยป้องกันโรคได้หลายชนิดแล้ว ยังแก้อ่อนเพลียระหว่างวันได้อีกด้วย’ นายดือรอแม กล่าวทิ้งท้าย /// - 026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี