พบศพชายวัย 45 ปี นอนเสียชีวิตปริศนาภายในร้านรับซื้อของเก่า สภาพเน่าเปื่อยนาน 8-10 วัน หลังหายตัวออกไปจากบ้าน ญาติเข้ายืนยันตัวบุคคลร้องไห้ระงม เผยชอบดื่มสุรา มีโรคประจำตัวหลายโรค ขณะที่เจ้าของร้านเผย ได้กลิ่นเหม็นมา 3 วัน ก่อนจะไปหยิบสังกะสีพบเป็นศพรีบแจ้ง จนท. เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ เร่งส่งร่างส่งผ่าชันสูตรอย่างละเอียด
วันที่ 28 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.นรชัย แก้วหนู รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตมาเป็นระยะเวลาหลายวัน ภายในร้านรับซื้อของเก่า หมู่ 3 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ภายหลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท. เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก. (สส.) สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.สส.สภ.เมืองตรัง กำลังชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ศูนย์ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง)
ถึงที่เกิดเหตุ เข้าไปภายในมุมด้านหลังร้าน บนพงหญ้าติดกับเศษขยะของเก่า ไม่มีสิ่งของปิดทับ พบร่างของชายไทย สภาพนอนหงายหน้าเสียชีวิต ในสภาพเน่าเปื่อยเกือบหมดทั้งร่าง กระดูกและกะโหลกโผล่ มีหนอนไต่ขึ้นตามร่าง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ลักษณะสวมเสื้อ นุ่งกางเกง และสวมรองเท้า เจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรศพในเบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-10 วัน
ต่อมา ได้มีผู้เข้ามาแสดงตนขอดูศพ เนื่องจากได้มีญาติสูญหายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อเข้าไปดูต่างร้องไห้ระงม พร้อมยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือ นายวุฒิพงษ์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง โดยสามารถยืนยันได้จากชุดที่สวมใส่ก่อนออกจากบ้าน รวมทั้งแหวนที่สวมบริเวณนิ้วนางข้างขวา ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติพี่น้อง
นายวุฒิชัย อายุ 48 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่า น้องชายหายออกจากบ้านเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยตอนออกจากบ้านไม่มีใครเห็นว่าไปไหน ซึ่งบ้านอยู่ห่างจากจุดพบศพประมาณ 500 เมตร โดยหลังจากหายไปก็ได้ออกตามหากันทุกวัน ทั้งภายในป่าและในชุมชนเมือง รวมทั้งโพสต์เฟสบุ๊กประกาศตามหา และไปหาร่างทรงหมอดูต่างๆบางหมอดูก็บอกว่าอยู่ในป่า บางหมอดูก็บอกว่าอยู่ในเมือง ก่อนจะมีคนโทรมาว่าพบศพคนเสียชีวิต จึงมาดูก็ยืนยันได้ว่าเป็นน้องชายจริง ซึ่งน้องชายได้หย่ากับภรรยาไปนานแล้ว รวมทั้งมีลูกด้วยกันแต่ก็แยกกันอยู่ทั้งหมด โดยน้องชายอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ ไม่ประกอบอาชีพ เนื่องจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ และมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ไขมัน ความดัน แทบจะทุกโรค รวมทั้งดื่มสุราแทบจะทุกวัน ทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปหรือคาดเดาได้ว่าน้องชายเสียชีวิตจากสาเหตุใด และมาเสียชีวิตในร้านนี้ได้ยังไง
ขณะที่ น.ส.กรรณิการ์ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า ได้บอกว่า ได้กลิ่นเหม็นเน่ามาประมาณ 3 วัน ซึ่งก็คิดว่าน่าจะมีแมวตายตรงมุมไหนสักมุมภายในร้าน โดยกลิ่นตีกันไปตีกันมาไม่รู้ว่าจุดไหน จนกระทั่งวันนี้ (28 ก.พ.) เห็นงู น่าจะเป็นงูจงอางเลื้อยอยู่ไม่ห่างจากจุดที่พบศพ จึงเดินตามหาแต่ไม่พบ กระทั่งต้องนำของเก่าขึ้นรถไปส่งที่ จ.พัทลุง จังหวะนั้นก็ได้เดินเข้าไปจะเอาสังกะสีบริเวณจุดนั้นพอดี ประกอบกับกลัวงูด้วยจึงหันมองรอบๆ จึงเห็นเข้ากับรองเท้า และกะโหลกคนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ที่ผ่านมาไม่เคยพบเห็นผู้ตายมาก่อน ส่วนกลางคืนก็ปิดประตูมิดชิด และไม่เคยมีอะไรผิดปกติมาก่อนหน้า และไม่ทราบว่าเข้ามาเสียชีวิตภายในร้านได้ยังไง
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถพิสูจน์สภาพร่างกายได้ว่ามีร่องรอยการถูกทำร้ายหรือไม่อย่างไร เนื่องจากสภาพศพเน่าเปื่อยเป็นอย่างมาก และยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุแห่งการตายที่แท้จริงได้ในเบื้องต้น จึงจะดำเนินการส่งร่างผู้เสียชีวิตไปยัง รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป /// - 026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี