เกือบไปแล้ว!!! สาวม.6 ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก แต่ถือเคสแรกของตำรวจอุดรฯ สามารถติดตามเงินมาคืนให้ผู้เสียหายได้
วันนี้ (28 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี,พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติงานอายัดบัญชีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมคืนเงินให้กับผู้เสียหายโดยมอบนำเช็คเงินสดมอบให้ 1,849,903 บาท
พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช รรท.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 24 พ.ย.67 ที่ผ่านมา คนร้ายได้ใช้วิธีการหลอกลวงเยาวชนอายุ 18 ปีเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยพวกมิจฉาชีพได้ชักชวนให้ลงทุนเล่นหุ้น แต่ผู้เสียหายได้ปฏิเสธ จากนั้นคนร้ายได้พูดชื่อนามสกุลและเลขที่บัตรประชาชน บอกรายละเอียดของบ้าน ของผู้เสียหายและกิจกรรมต่างๆ ที่ผู้เสียหายอย่างถูกต้อง บ้านอยู่ไหน บ้านเลขที่อะไร น้องไปกินหมูกระทะที่ไหน รู้หมดเลย และที่หนักคือคนร้ายได้ข่มขู่จะประทุษร้ายครอบครัวผู้เสียหายจึงเกิดความกลัว
จากนั้นคนร้ายได้บังคับผู้เสียหายเปิดกล้องโทรศัพท์และวีดีโอคอล คนร้ายได้บังคับให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคารบนมือถือของผู้เสียหายไปยังบัญชีธนาคารของคนร้ายและคนร้ายยังใช้อุบายให้ผู้เสียหายใช้โทรศัพท์ของพ่อแม่โอนเงินไปให้คนร้ายพร้อมข่มขู่ได้เงินไป 2,655,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายกลัวจึงได้ทำตาม ต่อมาพ่อแม่รู้จึงเข้ามาแจ้งความกระทั่งตำรวจสามารถอายัดบัญชีไว้ได้ จำนวน 1,849,903 บาท มาคืนแก่ผู้เสียหายได้
พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าวอีกว่า จากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำงานได้อย่างรวดเร็วตำรวจสามารถอายัดบัญชีคนร้ายไปได้ 1 บัญชี ได้เงินประมาณ 1.8 ล้านคืนอีก ซึ่งเงินจำนวนนั้นเป็นของคุณพ่อ ในส่วนของคุณแม่ คนร้ายเมื่อได้เงินไปแล้ว ได้เปลี่ยนเงินสกุลดิจิตอลไปแล้วก่อนอายัด และจากการขยายผลติดตามพบว่าส่วนเงินที่โอนเข้าไปนั้นเป็นเป็นบัญชีม้าทั้ง 3 บัญชี ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวน โดยกลุ่มมิจฉาชีพนี้ตำรวจเชื่อว่ามีฐานที่ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกชายแดนประเทศไทย สำหรับตัวเลขภาพรวมมีประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานี ถูกแก๊งมิจฉาชีพรองมีประมาณ 10,000 กว่าราย ตอนนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดไปยังกลุ่มวัยรุ่นที่อายุยังน้อยจะมีภาวะที่กลัวและผู้เฒ่าผู้แก่หากโดนแบบนี้ให้รีบตัดสายเลยดีกว่า
ด้านนางธนพร อายุ 53 ปี แม่น้องออม อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย บอกว่า ก่อนที่ลูกสาวโอนเงินให้มิจฉาชีพ มิจฉาชีพโทรมาหาลูกสาวบอกว่ารู้ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างและจะติดตามไปทุกที่ น้องจึงหลงเชื่อและถูกบังคับ ตอนแรกแม่ก็ยังไม่รู้น้องบอกกับแม่ว่า ขอเงิน 100 บาท จะไปสมัครเรียน จากนั้นน้องก็มาขอยืมโทรศัพท์แม่บอกว่าโทรศัพท์ใช้อินเตอร์เน็ตไม่ได้ แม่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรก็เอาโทรศัพท์ให้ลูกสาว ซึ่งลูกสาวก็ทำแบบนี้กับพ่อ มารู้อีกทีลูกสาวโอนเงินไปให้มิจฉาชีพแล้ว 5 แสนกว่าบาท ส่วนของพ่อโอนไปเกือบ 2 ล้านบาท กระทั่งมาแจ้งความตำรวจให้ช่วยอายัติบัญชีได้ทันและได้เงินคืนจำหนวนหนึ่ง สำหรับน้องเป็นคนเงียบๆ ถ้าน้องบอกแม่ก่อนหน้าคงไม่ถูกหลอกแต่ไม่ได้โกรธอะไรลูกสาวเพราะเขากลัวพ่อแม่จะถูกทำร้ายจึงโอนไป ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตร.อุดรที่อายัดเงินมาคืนได้บางส่วน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี